พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)ว่า รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และยืนยันมีความห่วงใยและไม่ทอดทิ้งเกษตรกรทุกกลุ่ม ซึ่งการแก้ปัญหาในขณะนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่ต้นทาง และต้องร่วมกันแก้ปัญหาทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต การรับซื้อ การส่งออกและการบริหารจัดการน้ำและพื้นที่การเพาะปลูกอย่างเหมาะสมรวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เกษตรกร
"ปัญหาในขณะนี้ส่วนหนึ่งมาจากการที่หลายฝ่ายยังคุ้นเคยกับการแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ซึ่งจะทำให้ภาคการเกษตรไม่มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง ซึ่งวันนี้อยากทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำความเข้าใจและร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการเกษตร"นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังและน้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในการสร้างความเข้มแข็งด้วยแนวคิดการระเบิดจากข้างในเป็นหลักก็จะทำให้ชาวนามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชอื่นๆเช่น ข้าวโพด และข้าวสาลี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและเตรียมมาตรการไว้รองรับสำหรับแก้ปัญหาผลผลิตไว้ล่วงหน้า ซึ่งการแก้ปัญหาที่สะสมมาตลอด 20-30 ปี คงใช้เวลาเพียงวันเดียวคงทำไม่ได้ แต่หากสามารถแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง กลางทางตามแนวทางของรัฐบาล เชื่อมั่นว่า จะสามารถทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้น และเกษตรกรเข้มแข็งขึ้นได้ภายใน 5 ปีนี้
"แม้ตนเองไม่ได้ลงพื้นที่พบประชาชน แต่ก็ได้เร่งทำงานและสั่งการทุกหน่วยงานลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งยืนยันถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาโดยไม่ขอตอบโต้กับฝ่ายต่างๆโดยการกระทำของใครจะผิดหรือถูกนั้นสังคมและประชาชนเป็นผู้ตัดสิน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว