รมว.พาณิชย์ คาด“ทรัมป์”ชนะเลือกตั้งยังไม่กระทบไทยระยะสั้น คงเป้าส่งออกไปสหรัฐฯปีนี้-ปีหน้า รอแถลงนโยบายก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 10, 2016 16:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะสั้น ซึ่งจากการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือกับผู้ส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ พบว่า ในกลุ่มอาหาร ทั้งกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง ยังส่งออกได้เช่นเดิม หรืออาจจะเพิ่มขึ้น เพราะโรงงานทูน่าในสหรัฐฯเพิ่งปิดตัวไป 2 แห่ง ขณะเดียวกัน สหรัฐฯเพิ่งประกาศคงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สินค้าไทยเช่นเดิม ซึ่งจะทำให้สินค้ามีศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ

"ขณะนี้ คงไม่สามารถประเมินอะไรได้มากไปกว่านี้ เพราะต้องรอดูการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน จึงจะประเมินสถานการณ์ที่ชัดเจนได้ แต่ได้มอบหมายให้ ทูตพาณิชย์ ติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับไทย แต่ผู้ส่งออกไทยได้กระจายความเสี่ยงจากการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ อยู่แล้ว ทั้งแอฟริกา เอเชีย อาเซียน อิหร่าน อินเดีย รัสเซีย รวมถึงได้ประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วด้วย”

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังคงยืนยันเป้าหมายมูลค่าการส่งออกของไทยไปตลาดสหรัฐฯ ในปีนี้เท่าเดิมที่ขยายตัว 1% ส่วนปี 60 ตั้งเป้าหมายขยายตัวที่ 3%

สำหรับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (TPP) นั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมการเจรจา ถือเป็นโอกาสดีที่จะมีเวลาศึกษาข้อดี-ข้อเสียมากขึ้น ส่วนนโยบายการหาเสียงของนายทรัมป์ที่เน้นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ และอาจมีผลต่อการเลื่อนสถานะของไทย ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ปัจจุบันไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สินทางปัญญา (PWL) หรือไม่นั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อไทย เพราะที่ผ่านมา ไทยปราบปราม และป้องกันการละเมิดอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการที่กรมฯ ได้วิเคราะห์นโยบายการหาเสียงของนายทรัมป์ พบว่า นโยบายบางอย่างจะเป็นประโยชน์กับการส่งออก และการลงทุนของไทย เช่น นโยบายการลดภาษีภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจมีเงินเหลือมากขึ้น และซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นได้ เช่นเดียวกับการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัวได้ 3.5% จะส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนนโยบายดึงการลงทุนของสหรัฐฯในต่างประเทศกลับเข้าสู่ประเทศนั้น จะส่งผลดีต่อการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ด้วย

ขณะที่นโยบายที่อาจกระทบกับไทย เช่น การให้ความสำคัญกับทรัพย์สินทางปัญญา แต่ไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ทรัพย์สินทางปัญญาทั้งระบบ เพื่อป้องกันการละเมิด ส่งเสริมให้คนไทยสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา และใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นแล้ว จึงไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ