กลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล เผยอุตสาหกรรมเอทานอลปี 2559 โตต่อเนื่องอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวขยายตัวและคนใช้ LPG เปลี่ยนกลับมาใช้น้ำมันกระตุ้นการใช้น้ำมันและเอทานอลเพิ่ม พร้อมคาดความต้องการใช้เอทานอลปีหน้าขยายตัวอีก 10% มั่นใจอนาคตเอทานอลระยะยาวสดใสตามแผน AEDP2015 เตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่มเป็นวันละ 1.3 ล้านลิตร ขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตเอทานอล พร้อมดันแผนเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบมันสำปะหลังสู่อุตสาหกรรมไบโอเคมิคัลและไบโอพลาสติก
นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อุบล ไบโอเอทานอล จำกัด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะค่อนข้างผันผวน และส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมเอทานอล แต่ด้วยการท่องเที่ยวไทยมีการเติบโตสูงมาก และผู้ที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เริ่มหันกลับมาใช้น้ำมัน รวมไปถึงเลือกใช้น้ำมันตรงประเภทของรถ ส่งผลให้มีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำมันแก๊สโซฮอล์ทำให้ปริมาณการใช้เอทานอลเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยในปี 2558 ปริมาณการใช้เอทานอลอยู่ที่ 3.5 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ปีนี้คาดว่ามีปริมาณการใช้เอทานอลอยู่ที่ 3.61 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 3%
"สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมเอทานอลในอนาคต คาดว่าจะยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น และเป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนจากภาครัฐ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้มีการใช้เอทานอลตามเป้าหมายแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (แผน AEDP2015) จะยิ่งทำให้อนาคตพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเอทานอล มีความมั่นคงยิ่งขึ้นโดยคาดว่าในปีหน้า ความต้องการใช้เอทานอลจะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อีก 10% โดยประมาณ"นายเดชพนต์ กล่าว
นายเดชพนต์ กล่าวอีกว่า เพื่อเตรียมแผนดำเนินการรองรับความต้องการเอทานอลที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาวตามแผน AEDP 2015 ที่จะเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลให้ได้วันละ 11.3 ล้านลิตรในปี 2579 กลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล จึงได้เตรียมแผนขยายสายการผลิตเอทานอลโรงที่ 2 กำลังการผลิต 9 แสนลิตร/วัน ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอลจะสามารถผลิตเอทานอลได้รวม 1.3 ล้านลิตร/วัน โดยปัจจุบันโครงการส่วนขยายได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และได้ผ่านการอนุมัติการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว
นอกจากการผลิตเอทานอลซึ่งเป็นธุรกิจหลักแล้ว กลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอลยังมีการต่อยอดในเรื่องของการสร้างพลังงานหมุนเวียนด้วยการนำวัตถุดิบกากมันสำปะหลังและน้ำทิ้ง ที่เป็นของเหลือใช้จากกระบวนการผลิตแป้งมันฯและเอทานอลมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพและไฟฟ้า โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 7.5 เมกะวัตต์ (MW) จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำนวน 1.9 เมกะวัตต์ และอีก 5.6 เมกะวัตต์ นำไปใช้ในกิจการของบริษัท ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับบริษัท แล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานภายในโรงงานได้เป็นอย่างดีและเป็นการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
นายเดชพนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำการส่งออกมันสำปะหลังปัจจุบันอยู่อันดับ 1 ของโลก ถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก การได้รับส่งเสริมและกระตุ้นจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะโลกแห่งอนาคตจะก้าวไปสู่แนวทางวิถีอินทรีย์ คือนอกจากเกษตรกรจะหันมาทำเกษตรอินทรีย์แล้ว การใช้พลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบปิโตรเคมีก็จะลดน้อยลง แต่ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพหรือการใช้ชีวเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าต้นทุนการผลิตแบบชีวภาพค่อนข้างสูง แต่ในอนาคตจะตอบโจทย์คำว่ายั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนทั้งเกษตรกรสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค
“ปัจจุบันกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล มีการดำเนินธุรกิจอยู่ในขั้นกลางน้ำ คือมีการผลิตแป้งมันสำปะหลังและเอทานอลจากมันสำปะหลัง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่กลุ่มบริษัท จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมให้ไปถึงขึ้นปลายน้ำ คือการเตรียมความพร้อมเป็นฐานการผลิตเทคโนโลยีชีวภาพโดยการเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบตั้งต้นของอุตสาหกรรมไบโอเคมีคอลและไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"นายเดชพนต์ กล่าว
อนึ่ง กลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอล เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจท้องถิ่น บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) และบริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด ในกลุ่มบมจ.ไทยออยล์ (TOP) โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 57.44, 21.28 และ 21.28 ตามลำดับ ก่อตั้งในปี 2551 โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมผลิตแป้งมันสำปะหลังและพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมพลังงานครบวงจรดำเนินธุรกิจภายใต้หลักบรรษัทภิบาล คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ควบคุมกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มบริษัทอุบลไบโอเอทานอลแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ ธุรกิจผลิตเอทานอลกำลังการผลิต 4 แสนลิตร/วัน ธุรกิจผลิตแป้งมันสำปะหลังกำลังการผลิต 700 ตันแป้ง/วัน และธุรกิจผลิตก๊าซชีวภาพและผลิตกระแสไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าได้รวม 7.5 เมกะวัตต์ เพื่อใช้ภายในกลุ่มบริษัทฯ และจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค