นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 203,848 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 16,054 ล้านบาท หรือ 8.5% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 37,859 ล้านบาท หรือ 22.8%) โดยการนำส่งรายได้ของส่วนราชการอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ 11,540 6,319 และ 673 ล้านบาท หรือ 67.1% 21.2% และ 0.6% ตามลำดับ
"ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการในเดือนตุลาคม 2559 ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีน้ำมัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในปีงบประมาณ 2560 โดยกระทรวงการคลังคาดว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เช่น การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐประจำปี 2560 เป็นต้น จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่อไป" นายกฤษฎา กล่าว
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนตุลาคม 2559 จำนวน 203,848 ล้านบาทนั้น นอกจากการนำส่งรายได้ของส่วนราชการอื่นและรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการแล้ว กรมสรรพากรยังจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ 673 ล้านบาท หรือ 0.6% ขณะที่กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีต่ำกว่าประมาณการ 2,775 2,038 ล้านบาท หรือ 26.2% และ 4.7% ตามลำดับ
โดยกรมสรรพากรจัดเก็บรายได้รวม 114,222 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 673 ล้านบาท หรือ 0.6% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 3.0%) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,012 ล้านบาท หรือ 3.8% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7.7%) เนื่องจากภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) และคลังหัก ณ ที่จ่าย ขยายตัวได้ดี และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 680 ล้านบาท หรือ 3.1% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4.7%) อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 922 ล้านบาท หรือ 1.6% (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 0.6%) โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 920 ล้านบาท หรือ 2.5% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 1.4%) สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ใกล้เคียงกับประมาณการ
ขณะที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้รวม 41,020 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,038 ล้านบาท หรือ 4.7 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 6.7%)
"ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,151 ล้านบาท หรือ 18.7% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 8.9%) เนื่องจากปริมาณยาสูบที่ชำระภาษีน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ประกอบกับผู้บริโภคได้เปลี่ยนมาบริโภคยาสูบราคาที่ถูกเพิ่มขึ้น และภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 582 ล้านบาท หรือ 7.2% (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 3.1%) อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 317 ล้านบาท หรือ 2.1% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27.3%)
ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้รวม 7,825 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,775 ล้านบาท หรือ 26.2% (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 17.6%) สาเหตุสำคัญมาจากอากรขาเข้าที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,717 ล้านบาท หรือ 26.2% (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 17.8%) เนื่องจากอัตราการขยายตัวของมูลค่าการนำเข้าต่ำกว่าที่ประมาณการไว้
ขณะที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้รวม 36,091 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,319 ล้านบาท หรือ 21.2% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 80.5%) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของการไฟฟ้านครหลวง โรงงานยาสูบ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีงบประมาณ 2559
ส่วนหน่วยงานอื่นจัดเก็บรายได้รวม 28,883 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 11,537 ล้านบาท หรือ 66.5% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 142.4%) เนื่องจากการนำส่งเงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
สำหรับกรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 152 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 3 ล้านบาท หรือ 1.9% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 28.8%) เนื่องจากรายได้ที่ราชพัสดุจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายเป็นสำคัญ
ขณะเดียวกันมีการคืนภาษีของกรมสรรพากรจำนวน 20,400 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,611 ล้านบาท หรือ 11.3% ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 17,500 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,800 ล้านบาท หรือ 13.8% และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 2,900 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 189 ล้านบาท หรือ 7.0%
นอกจากนี้ อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 1,293 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 323 ล้านบาท หรือ 33.3%, การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวน 1,300 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 49 ล้านบาท หรือ 3.6 และเงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออกจำนวน 1,200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการ