นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2560 เพื่อให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการทำงบประมาณปี 2561 ให้ส่วนราชการทำแผนบูรณาการใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ลดการซ้ำซ้อน และให้เกิดผลกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด
นายสมคิด กล่าวต่อว่า ตอนนี้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้โตขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากเป็นช่วงการปรับฐาน แต่ยอมรับว่าการบริโภคภาคเอกชนลดลงเพราะคนไทยไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิด และจะมีมาตรการออกมาดูแลในจังหวะที่เหมาะสม
"เศรษฐกิจไทยตอนนี้เป็นเรื่องของการปรับฐาน ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการผลักดันโครงการลงทุนออกมาให้ได้ตามแผน ซึ่งปี 2561 จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแรงเต็มศักยภาพ หากไม่ปรับฐานเศรษฐกิจก็จะไม่มีฐานที่ให้ GDP ของประเทศขยายตัวต่อไปได้" นายสมคิด กล่าว
พร้อม ระบุว่า ไม่กังวลกับภาววะเงินทุนไหลออกจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่าเดิม จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อป้องกันเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เงินทุนที่สหรัฐฯ ที่ไหลออกไปลงทุนทั่วโลกไหลกลับเข้ามาสหรัฐ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังดูแลอยู่
ขณะที่ค่าเงินบาทที่ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ผู้ส่งออกพอใจเนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกมากขึ้น