นบข.ไฟเขียวโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเหนียวตันละ 13,000 บ. ชงครม.สัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 18, 2016 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าในโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวนาปี ปีการผลิต 59/60 ในกรณีของข้าวเหนียว โดย เกษตรกรจะได้รับเงินทั้งหมด 13,000 บาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อ 9,500 บาทต่อตัน ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเหนียวในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน แต่หากเกษตรไม่ต้องการเก็บรักษาข้าวเหนียวในยุ้งฉางจะได้รับเงิน 11,500 บาท โดยกำหนดรายละไม่เกิน 15 ไร่ โดยราคาตลาดขณะนี้อยู่ที่ 10,500-10,600 บาทต่อตัน สำหรับข้าวเหนียวจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในเดือนธันวาคมนี้ และหลักเกณฑ์ความช่วยเหลือเป็นกรอบเดียวกันกับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวเปลือก ทำให้เกษตรคนใดที่ปลูกข้าวทั้งสองชนิดและเข้าร่วมโครงการในส่วนของข้าวหอมมะลิไปแล้ว จะไม่ได้รับค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯยังมีมติขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวนาปี ปีการผลิต 59/60 สำหรับเกษตรภาคใต้ จากเดิมสิ้นสุดโครงการในเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนกรกฏาคม ส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางยังเป็นไปตามกำหนดเดิม

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมติ นบข.ที่เห็นชอบการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวเหนียว โดยมาตรการชะลอการขายการขายโดยเก็บไว้ในยุ้งฉาง โดยกำหนดราคาช่วยเหลือให้เท่ากับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิ

"ก่อนหน้านี้ถือเป็นการดูดซับข้าวจากตลาดโดยที่รัฐบาลไม่ต้องรับภาระในการเก็บรักษาข้าว ซึ่งไม่เหมือนกับการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลต้องรับจำนำทุกเมล็ดไม่ให้เป็นภาระและเมื่อถึงเวลาก็สามารถนำข้าวที่เข้าโครงการออกมาจำหน่ายโดยไม่กระทบต่อตลาดข้าว...หวังว่าต่อจากนี้ราคาข้าวจะไม่ตกลงไปมากกว่านี้ ซึ่งการดูแลราคาข้าวและผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย"

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของเกษตรกรจะต้องปรับตัว โดยใช้ความรู้และเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยทั้งการผลิตและการ จัดจำหน่าย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการให้ข้อมูล e-Government และส่งเสริมการขายแบบ e-Commerce เพื่อให้เกษตรก้าวสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์เมอร์ (Smart-farmer) และถือเป็นการรองรับการเชื่อมโยงเครือข่ายทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่

ด้านน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศประเมินว่า การส่งออกข้าวในปีนี้จะเป็นตามเป้าที่วางไว้ที่ปริมาณ 9.5 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งในขณะนี้สามารถส่งออกข้าวได้แล้ว 8.7 ล้านตันข้าวสาร นอกจากนี้ ทางประเทศฟิลิปปินส์ จะมีเปิดประมูลข้าวรอบใหม่ในช่วงปลายปีนี้ในปริมาณ 2 แสนตัน ซึ่งไทยก็พร้อมเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ในรูปแบบภาคเอกชนเข้าร่วมประมูล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ