น.ส.อุปมา ใจหงษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เห็นชอบให้ออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อขายให้รายย่อยวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เริ่มขายตั้งแต่ 13 ธ.ค.59 ถึง 9 เม.ย.60 เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ โดยนักลงทุนสามารถซื้อได้ขั้นต่ำรายละ 1 พันบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท
พันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปี และ 7 ปี อัตราผลตอบแทนจะมีการประกาศอีกครั้ง ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนตลาดเล็กน้อย โดยผลตอบพันธบัตรในตลาดรุ่นอายุ 3 ปี อยู่ที่ 1.7% และรุ่นอายุ 7 ปี อยู่ที่ 2.2%
สำหรับสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ของไทยในช่วงที่ผ่านมาหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐนั้น ยอมรับว่ามีความผันผวนอยู่บ้าง โดยผลตอบแทนตราสารหนี้ปรับเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะอายุ 10 ปีขึ้นไปมีการปรับเพิ่มกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศมีการเทขายเพื่อนำเงินกลับไปลงทุนในตลาดสหรัฐที่ผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การขายตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างประเทศไม่กระทบกับตลาดตราสารหนี้ไทยมาก เพราะนักลงทุนในประเทศเข้มแข็งมีความต้องการตราสารหนี้ของไทยมาก และนักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ไทยเพียง 14%
"การถอนการลงทุนออกไปจึงไม่กระทบกับตลาดตราสารหนี้ของไทย และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ไทยมีการพัฒนาขึ้นมากทำให้แข็งแกร่งเพียงพอรอบรับความผันผวน"น.ส.อุปมา กล่าว