นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกรถยนต์ในเดือน ต.ค.59 สามารถส่งออกได้ 103,192 คัน ลดลง 7.23% จากเดือนต.ค.58 เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง เช่น ภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 53,934.64 ล้านบาท ลดลง 10.11% จากเดือนต.ค.58
ขณะที่ในช่วง 10 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ต.ค.59) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,003,918 คัน ลดลง 1.25% จากระยะเวลาเดียวกันในปีก่อน มูลค่าการส่งออก 534,366.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน ต.ค.59 มีทั้งสิ้น 161,105 คัน ลดลง 2.59% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกลดลง 24.91% และลดลง 6.91% จากเดือน ก.ย.59
โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน ม.ค.-ต.ค.59 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,637,841 คัน เพิ่มขึ้น 2.55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ในเดือน ต.ค.59 มีจำนวนทั้งสิ้น 60,634 คัน ลดลง 10.7% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากปลายปีที่แล้วเริ่มเร่งซื้อรถยนต์มากขึ้นจากภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่จะปรับขึ้นวันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ และลดลง 4.7% จากเดือนก.ย.59
และตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.59 ตลาดรถยนต์ในประเทศมียอดขาย 617,159 คัน ลดลง 0.7% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
นายสุรพงษ์ คาดว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้จะได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 2 ล้านคัน ส่วนยอดส่งออกรถยนต์ในปีนี้คาดว่าจะได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1.22 ล้านคันเช่นกัน ซึ่งคงจะต้องรอดูตัวเลขในเดือนพฤศจิกายนที่มีจำนวนการส่งออกมากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลือ ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะได้ 7.5 แสนคันตามที่ตั้งเป้าไว้
ขณะที่ในปี 60 คาดว่าการส่งออกรถยนต์จะอยู่ที่ 1.22 ล้านคัน ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศจะเพิ่มเป็น 7.8 แสนคัน