นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ นำทีมผู้บริหารการลงพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าแนวคิดในการพัฒนาพาณิชย์ภาคเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเป็นมาตรการเชิงรุกในการดูแลประชาชนในพื้นที่ทั้งการดูแลเรื่องค่าครองชีพของประชาชนสินค้าเกษตรที่สำคัญ ผลักดันเศรษฐกิจชุมชน รวมทั้งการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและทันกับสถานการณ์โดยได้กำหนดลงพื้นที่ชี้แจงรายละเอียดการดำเนินงานในภูมิภาคต่างๆ
การลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในครั้งนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกร และมุ่งเน้นในการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรในการจำหน่ายสินค้าเกษตร โดยจะไปติดตามสถานการณ์ผลผลิตและตรวจเยี่ยมกระบวนการรับซื้อมันสำปะหลัง ณ สหกรณ์โคนม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และ ลานมันศิริลักษณ์พืชผล จ.ปราจีนบุรี รวมทั้งติดตามการนำเข้ามันสำปะหลัง ณ จุดผ่อนปรนบ้านเขาดิน จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมการหาทางช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขปัญหาตามมาตรการของรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังได้นำทีมผู้บริหารมาประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานยกระดับการเชื่อมโยงการค้าภูมิภาค “พาณิชย์ภาค : Mini MOC" ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดด้วย การเดินสายลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญด้านสินค้าเกษตรค่าครองชีพ และการสร้างเศรษฐกิจชุมชน หลังจากได้เดินทางไปประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานยกระดับการเชื่อมโยงการค้าภูมิภาค “พาณิชย์ภาค : Mini MOC" และขับเคลื่อนการทำงานในระดับพื้นที่มาแล้ว 3 แห่ง คือ จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และ เชียงใหม่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ส่วนปัญหาค่าครองชีพและสินค้าเกษตรนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่จะสามารถแก้ปัญหาจากหน่วยใดหน่วยหนึ่งจำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐภาคเอกชน และภาคประชาชนโดยหน้าที่ของภาครัฐจะต้องกำหนดนโยบาย มีการจัดทำแผนการปฏิบัติงานตามกรอบนโยบายว่า จะต้องดำเนินการอย่างไร มีผลสัมฤทธิ์ในกรอบระยะเวลาเท่าไหร่ อย่างไร มีแนวทางในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่อยู่แล้วอย่างไร
ทั้งนี้ “พาณิชย์ภาค : Mini Moc" จะเป็นแนวทางการยกระดับการเชื่อมโยงการค้าภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่วมบูรณาการการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้สำเร็จอย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ การยกระดับจังหวัดเชียงใหม่เป็น “พาณิชย์ภาค" เพื่อเป็นศูนย์เชื่อมโยงประสานความช่วยเหลือระหว่างภูมิภาคกับส่วนกลางให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นขึ้นมาอีกครั้ง เน้นการทำงานในการลงพื้นที่ การติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดให้สอดคล้องกับต้นทุนสินค้าหากพบผิดปกติก็ต้องเอาจริงเอาจังในการกำกับดูแลไม่ปล่อยละเลย ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่หรือรายเล็กตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีไม่ให้เกิดราคาแพงจนกระทั่งชาวบ้านลำบากและที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสื่อสารโดยตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์หากมีเรื่องเร่งด่วนสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว