พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการทำงานของเจ้าหน้าที่และข้าราชการกระทรวง โดยมีนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารกระทรวงรอให้การต้อนรับ
โดยนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า การเดินทางมาในวันนี้ เพื่อขอบคุณการทำหน้าที่ของข้าราชการ รวมถึงติดตามความก้าวหน้า ของการปฏิบัติงานตามนโยบายต่างๆของรัฐบาล รวมถึงเร่งรัด มาตรการต่างๆ ที่ต้องทำให้แล้วเสร็จภายในปี 2560
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการจัดลำดับความเร่งด่วนของกิจกรรม ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีโดยเฉพาะกิจกรรมด้านการกีฬาและการท่องเที่ยวที่จะต้องสอดคล้องกัน และต่อเนื่องกัน เพื่อจะได้ขับเคลื่อนงานต่อไปในอนาคต
"มุ่งหวังให้รายได้จากการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 เพิ่มสูงขึ้น 6% หลังจากรายได้จากภาคการท่องเที่ยวใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและเป็นไปตามเป้า ซึ่งต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย และการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งยอมรับว่าการดำเนินการในระยะที่ผ่านมา อาจจะทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในบางประเทศลดลง แต่ในภาพรวมยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งสิ่งสำคัญคือเราจะต้องขับเคลื่อนให้ไตรมาส 4 ให้ดีขึ้น และขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ใช่คอยแต่สร้างเรื่องหรือสร้างวิวาทะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศมีปัญหาได้"
ด้านนางกอบกาญจน์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ไม่ได้มีการชี้แจงประเด็นใดเป็นพิเศษ เพียงแต่จะเน้นย้ำในสิ่งที่กระทรวงกำลังดำเนินการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับโครงการประชารัฐ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อหัว/ต่อวันให้มากขึ้น
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.4 ล้านล้านบาท สำหรับกรณีนายกรัฐมนตรีอยากให้ในช่วงไตรมาส 4 มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 6% นั้น รมว.ท่องเที่ยวฯ ยืนยันว่า จะพยายามทำให้ได้ ซึ่งมาตรการทางวีซ่า ถือว่าเป็นมาตรการหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแนวคิดที่จะให้นายกรัฐมนตรี ได้ทดลองเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ในวันที่ 21 ธ.ค. เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทางรางด้วย
ส่วนเป้ารายได้ในปี 60 กำหนดไว้ที่ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องหารือกับรัฐบาลเพื่อให้เร่งก่อสร้างระบบคมนาคมขนส่งต่างๆ ทั้งทางบก ทางเรือ และทางรถไฟ อันจะทำให้เกิดความเชื่อมโยงกับแหล่งสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
นางกอบกาญจน์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญว่า สถานการณ์โดยรวมขณะนี้เริ่มดีขึ้น ซึ่งทางการจีนได้ให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลจีนที่ต้องการปฏิรูปโครงสร้างการท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงจากผลกระทบของมาตรการดังกล่าวนั้น นางกอบกาญจน์กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา และฤดูกาลท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวในลักษณะที่เดินทางมาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนผู้ประกอบการที่เป็นบริษัททัวร์ หากสามารถปรับตัวได้เร็วก็จะไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมีแผนงานที่เตรียมจะนำเสนอและส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งเรื่องการท่องเที่ยงเชิงกีฬา หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมทั้งได้ทำงานร่วมกับทางการจีน ซึ่งมีความเห็นที่สอดคล้องกันในการปฏิรูปโครงสร้างทางการท่องเที่ยวให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบคลัสเตอร์ เน้นการท่องเที่ยวชุมชุม เพื่อกระจายรายได้ไปสู่คนในชุมชมมากขึ้น และทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการทำจัดทำข้อมูลดิจิตัล ทัวร์ริส