นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ข้าวทั้งระบบด้วยความใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่องและการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พบว่าสถานการณ์มีทิศทางที่ดีขึ้น ราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากการที่เกษตรกรปรับวิธีคิดหันมาทำให้ข้าวคุณภาพดี รวมทั้งมีการผลักดันข้าวออกสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับราคาข้าว ขณะนี้ เกษตรกรจากหลายจังหวัดเริ่ม มีความเชื่อมั่น มีการปรับวิธีคิดในการเก็บรักษาผลผลิตข้าว การตากข้าวให้แห้งเพื่อลดความชื้น มีการรักษาคุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้ง การหันมาปลูกข้าวที่มีมูลค่าสูง เพื่อการจำหน่ายให้ได้ราคาสูงขึ้น สอดคล้องกับแนวทางตามมาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์
สำหรับราคาข้าว ณ วันที่ 24 พ.ย.59 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ปี 59/60 (ต้นข้าว 36–42 กรัม) ความชื้นไม่เกิน 15% ตันละ 9,200 – 10,800 บาท ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 150 บาท หรือร้อยละ 1.52 เกี่ยวสดความชื้น 25% ตันละ 7,820 – 9,180 บาทราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่ปลูกในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ปี 59/60 (ต้นข้าว 36 – 42 กรัม) ความชื้นไม่เกิน 15% ตันละ 8,500–9,000 บาท ปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยตันละ 100 บาท หรือร้อยละ 1.16 เกี่ยวสดความชื้น 25% ตันละ 7,225 – 7,650 บาท
ส่วนราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ปี 59/60 ความชื้นไม่เกิน 15% ตันละ 10,800 – 12,300 บาท ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 425 บาท หรือร้อยละ 3.82 เกี่ยวสดความชื้น 25% ตันละ 9,180 – 10,455 บาท ราคาข้าวเปลือกเหนียวคละ ปี 59/60 ความชื้นไม่เกิน 15% ตันละ 9,500 – 11,000 บาท ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 150 บาท หรือร้อยละ 1.49 เกี่ยวสดความชื้น 25% ตันละ 8,075 – 9,350 บาท
ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% ความชื้นไม่เกิน 15% ตันละ 7,200 – 7,700 บาท ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยตันละ 50 บาท หรือร้อยละ 0.68 เกี่ยวสดความชื้น 25% ตันละ 6,120 – 6,545 บาท
"กระทรวงฯ มั่นใจว่าแนวโน้มราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก หลังจากที่ข้าวในท้องตลาดลดลง และยังมีความต้องการซื้อข้าวจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่หลายประเทศได้เพิ่มคำสั่งซื้อ เพื่อซื้อข้าวไปใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีหน้าจะอยู่ที่ช่วงเดือน ม.ค. ขณะที่ข้าวชนิดอื่นๆ ก็มีผู้ติดต่อซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน" นางอภิรดีกล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์มีการดำเนินการสำคัญที่จะช่วยเสริมกลไกการจำหน่ายข้าวของเกษตรกร โดยการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก 25 ครั้ง ใน 17 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร บุรีรัมย์ พิจิตร พิษณุโลก สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี หนองบัวลำภู นครพนม มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ ปริมาณรวมราว 2 หมื่นตัน มูลค่าจำหน่ายรวม 140 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกเจ้า ตามแต่ละพื้นที่ โดยเกษตรกรได้รับราคาสูงกว่าตลาดตันละ 50 – 500 บาท ตามชั้นคุณภาพ ซึ่งจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า
รวมทั้งสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงพาณิชย์ ทั้งในต่างประเทศและสำนักงานในต่างประเทศ 65 แห่งทั่วโลก มอบของขวัญปีใหม่เป็นข้าวชนิดต่างๆ ส่วนหีบห่อให้พิจารณาสนับสนุนสินค้า OTOP ซึ่งการรณรงค์ช่วยซื้อข้าวจากเกษตรกรโดยตรงจะทำให้เกิดความต้องการมากขึ้น ก็จะเป็นส่วนเสริมให้ชาวนาไทยมีความก้าวหน้ามีรายได้จากการขายข้าวมากขึ้น