สศค.เผยเศรษฐกิจไทย ต.ค.ขยายตัวจากบริโภคเอกชน-เบิกจ่ายภาครัฐ,ผลผลิตเกษตรยังโตดี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 28, 2016 14:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ต.ค.59 ว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีจากการบริโภคภาคเอกชนและการเบิกจ่ายภาครัฐ ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่อง สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งรองรับความผันผวนจากภายในและภายนอกประเทศได้

นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการ สศค. รักษาการตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะ โฆษก สศค.กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัว โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ยังขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.1% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยเป็นการขยายตัวทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ยังขยายตัวได้ที่ 3.8%

นอกจากนี้ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่สามารถขยายตัวได้ที่ 0.3% จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากฐานการใช้จ่ายภายในประเทศที่ขยายตัว 1.1% ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลโดยเฉพาะรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนขยายตัวดีต่อเนื่อง สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวมในเดือน ต.ค.59 สามารถเบิกจ่ายได้จำนวน 435.4 พันล้านบาท ขยายตัว 16.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนจากงบประมาณรายจ่ายปีปัจจุบันที่ขยายตัว 17.5% และ 17.0% ตามลำดับ

ด้านเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการผลิตยังคงมีสัญญานที่ดี สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 5.9% และขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วหลังปรับผลทางฤดูกาล โดยเป็นผลจากการขยายตัวของหมวดพืชผลสำคัญ โดยเฉพาะยางพารา ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน และกลุ่มไม้ผล

ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรหดตัวเล็กน้อยที่ -1.2% เนื่องจากราคาในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ที่ราคาหดตัวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว รวมถึงราคามันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในขณะที่ราคายาง และปาล์มน้ำมันยังขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ระดับ 86.5 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่ทั้งจากผู้บริโภคภายในประเทศและต่างประเทศ

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวอยู่ที่ 0.3% และ 0.7% ตามลำดับ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 1.2% ของแรงงานรวม หรือคิดเป็นผู้ว่างงาน 4.5 แสนคน นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ณ สิ้นเดือน ก.ย.59 อยู่ที่ระดับ 42.8% ถือว่ายังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกิน 60.0%

ส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ต.ค.59 อยู่ที่ 180.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 3.2 เท่าเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจไทยในการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ