นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) คาดว่าจะได้ข้อสรุปกรณีการทำธุรกรรมของฟินเทคภายในเดือน มิ.ย.60 ซึ่งหากพบว่าเข้าหลักเกณฑ์การเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรก็พร้อมจะเปิดรับให้ธุรกรรมฟินเทคเข้าเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรได้ รวมถึงพร้อมเปิดรับธุรกิจพิโคไฟแนนซ์เข้าเป็นสมาชิกด้วยเช่นกัน หากมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ในการเป็นสมาชิกของเครดิตบูโร
สำหรับหลักเกณฑ์ในการเข้าเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรนั้น ธุรกิจจะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 50 ล้านบาท งบการเงินต้องโปร่งใส ไม่มีปัญหา และผู้บริหารมีการกำกับดูแลองค์กรอย่างดี มีประสิทธิภาพ ขณะที่ก่อนหน้านี้มีธุรกิจนาโนไฟแนนซ์เข้าเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรแล้ว ประมาณ 13-14 ราย
"เรื่องฟินเทค คงต้องรอให้ได้ข้อสรุปก่อนว่าจะมีการทำธุรกรรมในลักษณะไหน เมื่อเรียบร้อยแล้วก็มาดูอีกทีว่าต้องการเข้าเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรไหม ซึ่งเราพร้อมรับธุรกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเข้าเป็นสมาชิกอยู่แล้ว" นายสุรพล กล่าว
ส่วนของแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้านั้น แม้จะอยู่ในระดับสูงแต่ก็ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนก้าวกระโดด หรือทำให้เกิดความวิตกกังวลแต่อย่างใด ส่วนใหญ่เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินมีการติดตามการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในด้านนี้ได้
นายสุรพล กล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานของเครดิตบูโรในปี 2560 โดยคาดว่าจะมีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกขอดูข้อมูลทางการเงินของประชาชนเพื่อวิเคราะห์สินเชื่อและทบทวนสินเชื่อของลูกค้าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านครั้ง จากปี 2559 ที่คาดว่าจะมีการขอตรวจเครดิตไม่ต่ำกว่า 50 ล้านครั้ง ขณะที่การขอเข้าตรวจเครดิตของประชาชนทั่วไป ในปี 2560 คาดว่าจะอยู่ที่ 1 ล้านราย จากปี 2559 อยู่ที่ 7-8 แสนราย จากจำนวนบุคคลธรรมดาที่มีภาระหนี้สินจำนวน 30 ล้านลูกหนี้
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Bank เปิดเผยว่า สาเหตุของการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ประกอบการ SMEs ส่วนใหญ่เกิดจากความผันแปรของรายได้ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งยังมีปัจจัยเรื่องฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้รายได้มีความไม่แน่นอน แต่ยืนยันว่าสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของผู้ประกอบการ SMEs ยังไม่อยู่ในขั้นวิกฤติ
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการธนาคาร นายสมชาย หาญหิรัญ ประธานกรรมการ ธพว. ได้มอบนโยบายให้ธนาคารเร่งปรับการดำเนินงานเพื่อเป็น Development Bank อย่างเต็มรูปแบบโดยเร็ว โดยให้กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารธนาคาร นำเสนอแนวทางเพื่อให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณาภายใน 3 เดือน
อนึ่ง วันนี้ ธพว.ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเครดิตบูโร ในการเป็นตัวแทนรับใบคำขอตรวจเครดิตบูโร ผ่านที่ทำการสาขาของ ธพว. 4 แห่ง ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น จ.พิษณุโลก และ จ.สุราษฎร์ธานี แก่บุคคลทั่วไป และหลังจากนี้ 2 สัปดาห์คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการให้กับนิติบุคคลได้