นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 800 เมกะวัตต์ ยืนยันว่าไม่ได้ชะลอ แต่อาจเลื่อนออกไปจากแผนเดิมที่จะเข้าระบบในปี 2565
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ลงพื้นที่เพื่อสอบถามความคิดเห็นชุมชนในพื้นที่ว่ามีความต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ เบื้องต้นพบว่าคนในท้องถิ่นยังสนับสนุนโรงไฟฟ้ากระบี่และเทพา แม้ว่าบางกลุ่มจะกังวลเรื่องมลพิษ แต่ก็มีการชี้แจงเรื่องเทคโนโลยีที่เลือกใช้ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันที่ประเทศญี่ปุ่นใช้ นอกจากนี้ยังให้ กฟผ. เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย
ขณะเดียวกัน กฟผ. แจ้งว่าโครงการสายส่งไฟฟ้าภาคใต้ เลื่อนออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการรอนสิทธิ์ในบางพื้นที่ จากเดิมระยะแรกจะแล้วเสร็จในปี 2562 ดังนั้นจึงมีความเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงปริมาณการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ เพราะปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้เติบโตขึ้นทุกปี โดยมาจากภาคการท่องเที่ยว กลุ่มโรงแรม ดังนั้นจึงให้ทาง กฟผ. ศึกษาแผนรองรับความเสี่ยงเพื่อเสนอมายังกระทรวงพลังงานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานยังคงส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในทุกภาค โดยในพื้นที่ภาคใต้ก็เช่นกัน แต่พบว่าก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันยังมีปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศในระดับสูง แต่หากโรงไฟฟ้าถ่านหินเลื่อนออกไปอีก ก็จะกระทบด้านความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้ในอนาคต