นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 16 ที่กรุงเทพ ในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา (ไฮสปีดเทรน) ระยะทาง 252.5 กม. วันที่ 2 ธ.ค. ว่า การเจรจาในประเด็นหลักเรื่องแบบก่อสร้าง,ร่างสัญญา และด้านการเงิน มีความก้าวหน้า แต่ยังไม่เรียบร้อยและต้องหารือกันต่อไป โดยตั้งเป้าจะให้ได้ข้อยุติในเดือนธ.ค.2559 โดยวางเป้าหมายที่จะตอกเข็มเริ่มก่อสร้างตอนที่1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) ในเดือนมี.ค. 2560
ทั้งนี้ จะต้องเร่งกระบวนการนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำข้อมูลเพิ่มเติมเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ทันการประชุมในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อเสนอครม.ในม.ค.2560 เพื่อให้สอดคล้องกับการเริ่มต้นก่อสร้างโครงการ
โดยในเรื่องแบบก่อสร้าง ระยะทาง 3.5 กม. ซึ่งจีนได้ส่งแบบมาแล้ว การถอดแบบและปรับรหัสมาตรฐานวัสดุก่อสร้างของจีน มาเป็นรหัสมาตรฐานของไทยมีความก้าวหน้าประมาณ 95% แล้ว ซึ่งหากแล้วเสร็จจะสามารถกำหนดราคากลาง และเปิดประมูลได้คาดว่าจะ ประมูลได้ในเดือนก.พ. 2560 ส่วนแบบตอนที่ 2,3,4 นี้ ทางจีน ต้องการให้มีการลงนามสัญญาจ้างออกแบบก่อน เนื่องจากกังวลเรื่องค่าออกแบบที่ไทยต่องจ่าย ซึ่งประเด็นนี้ อยู่ระหว่างการเจรจา ร่างสัญญาEngineering Procurement and Construction (EPC-2 ) สัญญางานออกแบบ ,สัญญาควบคุมงาน จะเร่งให้ได้ข้อยุติในการเดือนธ.ค.นี้ เพื่อสามารถลงนามได้ ซึ่งจะทำให้จีนมั่นใจและเร่งการออกแบบ ตอนที่ 2,3,4 ต่อเนื่อง
นายอาคม กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคม 2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปจีน เพื่อเข้าร่วมประชุมประจำปีของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC : Joint Committee on Trade, Investment and Economic Cooperation China-Thai) ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่ง ตนจะร่วมเดินทางไปด้วย โดยในวันที่ 9 ธ.ค.นั้น จะมีการหารือถึงความก้าวหน้าความร่วมมือโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมกับมีการลงนามใน MOC หรือบันทึกความร่วมมือไทย-จีน เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ว่าไทยจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง จากกรุงเทพ-หนองคาย เหมือนเดิม เพื่อเขื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค โดยแบ่งก่อสร้างในระยะแรก จากกรุงเทพ-นครราชสีมาก่อน ซึ่งประเด็นนี้ทางจีนมีความกังวล ขณะที่นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้เคยหารือถึงกลประเด็นนี้เข่นกัน เพราะกังวลว่าจะไม่สามารถต่อเชื่อมกับรถไฟ จีน-ลาว กับไทยได้
สำหรับการเจรจาด้านการเงิน จีนยืนยันอัตราดอกเบี้ยที่ 2.3% ที่ไทยจะกู้มาดำเนินการในส่วนของการจัดหาระบบอาณัติสัญญาณ และตัวรถ ว่าต่ำสุดแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์เปรียบเทียบกับแหล่งเงินกู้อื่น มีอัตราดอกเบี้ยที่ 2% ถือว่าอัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอจีนยังสูง ซึ่งได้เสนอให้จีนพิจารณาเงื่อนไขในรูปแบบมาชดเชย ส่วนต่างของดอกเบี้ยที่สูงของจีนเพื่อให้ภาพรวมมีต้นทุนการเงินลดลง ซึ่งเรื่องการเงินยังมีเวลาในการหารือกันอีก