พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง แต่ก็จะทำให้นักลงทุน ตลอดจนต่างชาติ มองภาพรวมของประเทศดูมีเสถียรภาพและมีความมั่นคงว่าประเทศไทยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ธปท.ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการออกคำสั่งมอบหมายให้ ธปท.กำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจในด้านของความมั่นคง, ด้านการกำกับนโยบาย ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นผู้ดูแล, ด้านการถือหุ้น ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นผู้ดูแล แต่การกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจในช่วงที่ผ่านมาของ ธปท. ไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพนัก เนื่องจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะมีกฎหมายเฉพาะใช้ในการปฎิบัติ ซึ่งทำให้การดำเนินงานของ ธปท.ติดขัดในข้อกฎหมาย ดังนั้นจึงมีการขอยกร่างแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินเพิ่มเติม เพื่อให้ ธปท.สามารถกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจในด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายที่แก้ไขใหม่นี้ คือ ให้ ธปท.สามารถนำหลักเกณฑ์ความมั่นคงของ ธปท.มาบังคับใช้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจแทนหลักเกณฑ์ตามกฎหมายจัดตั้งสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ แม้จะมีเนื้อหาที่แตกต่างจากที่กำหนดในกฎหมายจัดตั้งของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดกระบวนการแก้ไขปัญหากรณีเงินกองทุนต่ำกว่าที่กำหนด (PCA) และกรณีการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น (PPA) ที่เหมาะสมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมทั้งยังมีการกำหนดบทลงโทษกรณีมีการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์กำกับดูแลตาม พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงินไว้ชัดเจนด้วย