นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.65/68 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากผลของการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้ ที่มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไป ซึ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐมีแรง ซื้อกลับคืน
"บาทอ่อนค่าลง จากผลที่เมื่อวานนี้ ECB มีมติขยายเวลาการทำ QE จึงทำให้เงินยูโรร่วงลงไป และดอลลาร์สหรัฐฯ เด้งขึ้นมา และดอลลาร์สหรัฐมีแรงซื้อคืน" นักบริหารเงิน ระบุ
ขณะเดียวกันตลาดรอติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวัน ที่ 12-13 ธ.ค.นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างคาดว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่า มองกรอบไว้ที่ 35.60-35.70 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.6567 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (8 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.24022% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (8 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.50217%
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.45/46 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.47 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0610/0612 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0799 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6170 บาท/
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานข้อมูลธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจล่าสุดเดือน
- กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งการและมอบนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์และ
- ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า การตัดสินใจขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตร
- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากธนาคาร
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบยูโร
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จาก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรก ในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่า