เครือข่ายผู้นำชุมชนและประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี ยื่นหนังสือถึงนายกฯวอนทบทวนคำสั่งปิดเหมืองมีผลสิ้นปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 13, 2016 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เครือข่ายผู้นำชุมชนและประชาชนที่อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำชาตรี นำโดยผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนชาวบ้าน ตัวแทนกลุ่มอาชีพ และพ่อค้าแม่ค้า ในพื้นที่จำนวน 13 คน เดินทางมายื่นจดหมายถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยวิงวอนให้นำผลการสำรวจความคิดเห็นและความพอใจของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบเหมืองฯ ทั้ง 29 หมู่บ้านจากสวนดุสิตโพลมาพิจารณายกเลิกคำสั่งปิดเหมืองแร่ทองคำชาตรี

เนื่องจากผลสำรวจพบว่าร้อยละ 76 ของประชาชนในพื้นที่ระบุชัดอยากให้เหมืองเปิดทำการต่อไป พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตัวจริงที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ก่อนทำการลงประชามติคนส่วนใหญ่อยากให้เหมืองอยู่ในชุมชนต่อไปหรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป

หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 ให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส หยุดดำเนินการด้วยเหตุผลเพื่อลดความขัดแย้งในพื้นที่ ทำให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม มีคำสั่งให้ต่อใบอนุญาตประกอบโลหกรรม ของบริษัท อัคราฯ ไปจนถึงเพียงวันที่ 31 ธ.ค. 2559 จากปกติใบอนุญาตดังกล่าวจะได้รับการต่ออายุไปเป็นระยะเวลา 3 – 5 ปี ทำให้พนักงานบริษัทอัคราฯ และประชาชนโดยเฉพาะในเขต 3 ตำบล คือ ต. เขาเจ็ดลูก จ. พิจิตร ตำบลท้ายดง จ.เพชรบูรณ์ และ ต. วังโพรง จ. พิษณุโลก ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ล้วนมีอาชีพหลักคือการทำงานในเหมือง

ซึ่งรวมถึงพนักงานบริษัท อัคราฯ เอง และบริษัทฯ ผู้รับเหมา ผู้รับจ้างเหมาช่วง อีกกว่า 1000 ชีวิตต้องตกงาน ในขณะที่ครอบครัวอีกว่า 4,000 คนและประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ทั้ง 29 หมู่บ้านต่างก็ต้องได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมเช่นเดียวกัน กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลและคำถามต่อไปว่า “หากไม่มีเหมืองฯ ชุมชนจะเป็นอย่างไร" ทำให้เครือข่ายฯ เดินทางเข้าวิงวอนให้รัฐบาลพิจารณาข้อมูลจากผลโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรีที่มีต่อเหมืองฯ ที่ อบต. ทั้ง 3 แห่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิตจัดทำขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐลงพื้นที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนตัวจริงในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ก่อนเดินทางไปยื่นหนังสือถึงรมว.อุตสาหกรรม และอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ต่อในวันเดียวกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ