นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าในที่สุดเฟดจะต้องตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัวต่างมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้หากเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไว้นานจนเกินไป และปล่อยให้เงินไหลออกสู่ตลาดเช่นนี้ ก็จะส่งผลให้เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เอง
"การที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย ก็เป็นเรื่องที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะดูตัวเลขเศรษฐกิจก็ดีขึ้น ซึ่งการที่สหรัฐคงดอกเบี้ยไว้ต่ำๆ โดยมีเงินปล่อยออกมาในตลาดมากแบบนี้ ก็จะเป็นความเสี่ยงของสหรัฐฯ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เขาอาจจะมีปัญหาได้ เพราะฉะนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะต้องแก้ปัญหานี้ และดึงให้อัตราดอกเบี้ยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ" รมว.คลัง กล่าว
ส่วนผลกระทบที่จะมีต่อภาวะการเงินและค่าเงินของไทยหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น นายอภิศักดิ์ เชื่อว่า ผลกระทบจะมีน้อย เพราะเงินกู้ของไทยในส่วนที่เป็นเงินตราต่างประเทศมีน้อยมาก ขณะเดียวกันในส่วนของค่าเงินบาทนั้น ความผันผวนเป็นเรื่องปกติเมื่อมีเงินไหลเข้าออก ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องดูแล
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการกลางกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาสู่ระดับ 0.50-0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี