นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ที่สามารถนำใบกำกับภาษีไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ ขณะนี้เริ่มมีประชาชนทยอยซื้อกระเช้าของขวัญเพื่อมอบให้กันในช่วงเทศกาลปีใหม่มากขึ้นแล้ว ซึ่งกรมฯ ได้กำชับให้ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และซุปเปอร์มาเก็ต ต้องแสดงรายการสินค้า ตลอดจนขนาดน้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ และราคาสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้าหรือชุดของขวัญให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญจะต้องไม่นำสินค้าที่ใกล้หมดอายุมาจัดใส่กระเช้า โดยสินค้าต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขอให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบว่าไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งหากประชาชนพบเห็นสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 รวมทั้งได้ขอความร่วมมือห้างฯ ให้ปรับเปลี่ยนสินค้า หากผู้บริโภคไม่ถึงพอใจในคุณภาพสินค้าก็ให้สามารถนำมาแลกได้
"จากนี้ไป กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบการจำหน่ายกระเช้าของขวัญและชุดของขวัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที แต่จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการกระทำผิด โดยผู้ประกอบการ ห้างร้านต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี" นางนันทวัลย์กล่าว
พร้อมระบุว่า ราคากระเช้าของขวัญในปีนี้ถูกลงจากปีที่ผ่านมา โดยมีราคาเริ่มตั้งแต่ 299 บาท และห้างร้านต่างๆ ยังได้จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการซื้อด้วย ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องดีของผู้บริโภคที่จะซื้อกระเช้าของขวัญเพื่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่ได้ในราคาที่ถูกลง
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ขอความร่วมมือห้างต่างๆ นำข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว มาจัดเป็นกระเช้าของขวัญปีใหม่จำหน่ายให้กับผู้บริโภค เพื่อร่วมช่วยเหลือชาวนาและช่วยผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น รวมทั้งยังมีการนำสินค้าในโครงการหลวงมาจัดกระเช้า เพื่อเป็นทางเลือกอีกด้วย