นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช.ได้ประกาศ 13 นโยบายหลักในการดำเนินงานของสำนักงาน กสทช.ในปี 60 เน้นคุ้มครองผลประโยชน์สูงสุดให้กับรัฐ และประชาชน ดังนี้
1. การสร้างองค์กรโปร่งใสอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นตั้งแต่กระบวนการการจัดตั้งงบประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนงานบริการประชาชนในการออกใบอนุญาตต่างๆ ให้มีความโปร่งใสในการทำงานทุกขั้นตอน
2. สำนักงานฯ จะรีบนำเงินรายได้ในปี 59 หักจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของสำนักงานแล้ว นำเงินส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินในต้น ม.ค.60 ในทันทีโดยยังไม่รอผลการตรวจสอบงบการเงินของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยคาดว่าปี 59 จะมีเงินนำส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินมากกว่า 4,300 ล้านบาทขึ้นไป
3. สำนักงานฯ จะกระจายอำนาจในการออกใบอนุญาตทุกประเภทให้สำนักงาน กสทช. ภาคทั้ง 4 ภาค สามารถดำเนินการได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกภูมิภาคในการยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ พร้อมทั้งจะรีบจัดตั้งสำนักงาน กสทช.เขต ที่ยังขาดอยู่อีก 4 เขต ให้ครบจำนวน 21 เขต เพื่อสนับสนุนการทำงานกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ ในเรื่องการตรวจสอบเนื้อหาต่างๆ ทั้งทางด้านวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ตลอดจนการรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ ของประชาชน
4. จะสนับสนุนและผลักดันในการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอล ทั้งที่มติที่ประชุม กสทช. ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว และในส่วนที่อยู่ในขั้นตอนที่จะต้องนำเสนอต่อไปก็ตาม โดยมีหัวข้อหลักๆ ดังนี้
- สนับสนุนให้ใช้เงินกองทุนของ กสทช. ในการนำช่องรายการไปขึ้นบนสัญญาณดาวเทียมตามกฎ Must Carry โดยจะรีบผลักดันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
- การยกเว้นหรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมรายปี จากการออกอากาศรายการเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยให้ถือเป็นรายการข่าวสารประโยชน์ที่นำมาลดหย่อนหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมได้
- การขยายงวดการชำระเงินค่าประมูลในงวดที่ 4 งวดที่ 5 และงวดที่ 6 ออกเป็นหลายๆ งวด เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล
- การแจกคูปองดิจิตอลเพิ่มเติมอีก 4 ล้านใบเศษ ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้เคยประกาศว่าจะมีการแจกในเดือน พ.ย.59 นั้น สำนักงาน กสทช. ต้องขออภัยประชาชนที่จะต้องเลื่อนไปแจกในไม่เกินกลางเดือน ม.ค.60 ดนื่องจาก สำนักงาน กสทช. ได้มีการจัดวางระบบการแจกคูปองใหม่เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากที่สุด และจะต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการที่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมตามนโยบายของรัฐบาล โดยการแจกคูปองใหม่นี้ ประชาชนจะสามารถนำบัตรประชาชนเพียงใบเดียวสามารถนำไปใช้งานในการแลกเซ็ตท็อปบ็อกซ์ หรือส่วนลดทีวีดิจิตอลได้ทันที โดยมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับกรมการปกครองในการดำเนินการดังกล่าว
- เร่งรัดการขยายโครงข่ายโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลโดยเฉพาะสถานีเสริมเพื่อให้ครอบคลุมการออกอากาศ และมีคุณภาพสัญญาณการรับชมเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน
- การขยายระยะเวลาการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ โดยพิจารณาจากผลประกอบกิจการในปี 60 ซึ่งส่งผลให้เป็นการขยายระยะเวลาการนำส่งเงินส่งเข้ากองทุนออกไปเป็นปี 61
- การลดอัตราค่าธรรมเนียมรายปี โดยใช้บังคับกับรายได้ที่เกิดในปี 59 ซึ่งจะส่งผลให้ภาระค่าธรรมเนียมรายปีโดยรวมลดลงกว่า 50%
5. จะเร่งสนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับโทรทัศน์ดิจิตอล เพื่อให้สอดรับกับ นโยบาลของรัฐบาล สำนักงาน กสทช. จะเร่งรัดมาตรการป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
6. จะคืนคลื่นวิทยุของสถานีวิทยุที่สำนักงาน กสทช. ดูแล (1 ปณ) อย่างน้อยจำนวน 9 สถานี ในต้นปี 60
7. จะสนับสนุนเร่งรัดในการติดตั้งอินเตอร์เน็ตหมู่บ้านตามภารกิจบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ซึ่งหมู่บ้านที่อยู่ในการดูแลของสำนักงาน กสทช. ในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน และพื้นที่ที่รัฐบาลมอบหมายให้ดำเนินการเพิ่มเติมอีก 15,000 หมู่บ้าน โดยจะรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะสามารถทยอยเปิดดำเนินการได้ในเดือน ธ.ค.60 เป็นต้นไป
8. การประมูลเบอร์มือถือสวย สำนักงานฯ จะมีการเปิดประมูลเบอร์มือถือสวยจำนวน 1,500 เลขหมายในปี 60 อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการทยอยประมูลรายไตรมาส โดยในไตรมาสที่ 1 จะนำเลข 6 ตัวเหมือน และ 7 ตัวเหมือน ไม่น้อยกว่า 100 เลขหมายนำมาเปิดประมูลในวันที่ 18-19 มี.ค.60 และในส่วนที่เหลือก็จะทยอยประมูลในไตรมาส 2, 3 และ 4 ต่อไป เงินรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน
9. การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการงานในระบบพร้อมเพย์ หรือ โมบายเพย์เม้นต์ โดยในปลายไตรมาส 1/60 สำนักงาน กสทช. จะให้มีการลงทะเบียนซิมเติมเงินที่เปิดเบอร์ใหม่แบบสแกนลายนิ้วมือ โดยจะต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงไปในการลงทะเบียนด้วย และจะมีการตรวจสอบฐานข้อมูลกับกรมการปกครองเพื่อยืนยันข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ใช้งานในระบบพร้อมเพย์ หรือ โมบายเพย์เม้นต์ต่างๆ ว่าเมื่อมาใช้งานในระบบนี้แล้ว เงินในบัญชีจะไม่สูญหาย
สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้เดิม สำนักงาน กสทช. ขอเรียนยืนยันว่าไม่จำเป็นจะต้องมาลงทะเบียนใหม่อีก แต่หากต้องการสร้างความมั่นใจในการไปทำธุรกรรมทางการเงินในระบบพร้อมเพย์ หรือ โมบายเพย์เม้นต์ สามารถมาลงทะเบียนในระบบใหม่ได้ โดยในขณะนี้มีประชาชนที่ใช้ในระบบโมบายเพย์เม้นต์อยู่ประมาณ 14 ล้านบัญชี สำนักงาน กสทช.จะรวมมือกับทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ค่ายมือถือทุกค่าย ในการที่จะดูแลเลขหมายทั้ง 14 ล้านบัญชีเป็นพิเศษ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีความมั่นใจในการใช้งาน
10. ซิมคนพิการ สำหรับคนพิการที่ซื้อซิมใหม่จะได้รับส่วนลดค่าบริการ 10% สำหรับซิมเก่า เมื่อนำไปแสดงตน สามารถรับส่วนลดค่าบริการ 10% ได้เช่นกัน ทั้งนี้ซิมดังกล่าวจะสามารถให้บริการได้ไม่เกินเดือนมี.ค.60
11. การนำสารสื่อสารลงดินและการจัดระเบียบสายสื่อสาร สำนักงาน กสทช. จะเร่งดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารโดยดำเนินการร่วมผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งนี้เพื่อสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม และความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน โดยจะรีบทยอยดำเนินการ
12. เรื่องเงินรายได้ในช่วงเยียวยา 1800 และ 900 จะรีบนำเสนอให้ได้ข้อยุติภายในไตรมาส 1/60 เพื่อจะนำรายได้ที่เกิดจากการให้บริการในช่วงดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน
13. เรื่องการคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนในการใช้บริการ ในเรื่องดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานคุ้มครองผู้บริโภคทางด้านโทรคมนาคม ทั้งเรื่องการคิดอัตราค่าบริการ คุณภาพสัญญาณของการให้บริการ เรื่องร้องเรียนต่างๆ ที่เข้ามา งานทางด้านกระจายเสียงและโทรทัศน์ เรื่องโฆษณาที่เกินจริง โฆษณาที่ผิดกฎหมายต่างๆ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการโดยรักษาผลประโยชน์ของประชาชนให้มากที่สุด
"นโยบายทั้ง 13 ข้อ ดังกล่าวเป็นนโยบายที่สำนักงาน กสทช. ตั้งเป้าที่จะดำเนินการเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชน" นายฐากร กล่าว