(เพิ่มเติม) ศาลปกครอง สั่งคุ้มครองชั่วคราวเบรก กสทช.บังคับ BBL จ่ายค่าไลเซ่นส์ทีวีดิจิตอลแทน"ไทยทีวี"

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 20, 2016 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดี ระงับการดำเนินการใดๆเพื่อบังคับตามหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ (BBL) เพื่อให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดต่อๆไปจนครบทั้ง 16 ฉบับ ลงวันที่ 10 ก.พ.57 ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทีวีดิจิตอลช่องไทยทีวี และช่อง LOGA ลงวันที่ 25 เม.ย.57 ในงวดที่เหลือ ไว้จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ กสทช.ได้มีหนังสือลงวันที่ 16 มิ.ย.58 ให้ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะผู้ค้ำประกันของบริษัท ไทยทีวี จำกัด ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทั้ง 2 ช่อง ในงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 6 แทนไทยทีวี เนื่องจากไทยทีวีปฏิเสธการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ (ค่าประมูลคลื่นความถี่) ตามหนังสือทวงถามทั้ง 3 ฉบับ ขณะที่ธนาคารกรุงเทพได้นำเงินไปชำระให้แก่ กสทช.เป็นเงินจำนวน 288,472,000 บาท เมื่อวันที่ 4 พ.ค.59

ต่อมาธนาคารกรุงเทพ ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงแจ้งมายัง ไทยทีวี ว่าได้นำเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในปีที่ถึงกำหนดชำระงวดที่ 2 ไปชำระให้แก่ กสทช.เป็นเงินจำนวน 288,472,000 บาทแทนไทยทีวี และธนาคารใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไทยทีวี จำกัด ให้ไว้ธนาคาร และขอให้ ไทยทีวี ชำระเงินดังกล่าว รวมทั้งค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันทั้ง 16 ฉบับของปี 59 เป็นเงิน 13,025,859 บาท

แต่ไทยทีวี ปฏิเสธที่จะชำระเงินจำนวนดังกล่าวตามที่ธนาคารกรุงเทพทวงถาม เพราะได้ฟ้องคดีกับ กสทช.เป็นกรณีพิพาทต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำบังคับห้ามมิให้ กสทช.ดำเนินการใดๆ เพื่อบังคับตามหนังสือค้ำประกัน พร้อมทั้งให้คืนหนังสือค้ำประกัน ให้คืนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ทั้ง 2 ฉบับ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งขอให้ศาลสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลเป็นโมฆะไปแล้ว

ศาลระบุว่ามีประเด็นต้องพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบการกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติเสียก่อนว่า คู่กรณีฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญาที่พิพาท ซึ่งการที่ กสทช.เรียกให้ธนาคารกรุงเทพชำระเงินค่าธรรมเนียบใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทั้งสองช่องรายการแทนไทยทีวี ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลักทรัพย์ค้ำประกัน และย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของไทยทีวีอย่างร้ายแรง ทำให้ธุรกิจขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการขอสินเชื่อกับธนาคารต่างๆ เพื่อขยายธุรกิจ

และในชั้นไต่สวนมีเหตุอันควรเชื่อว่าเมื่อธนาคารกรุงเทพชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตฯ งวดที่ 2 และ งวดที่ 3 แทนไทยทีวีไปแล้ว กสทช.ตั้งใจจะเรียกให้ธนาคารกรุงเทพชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดต่อๆไปจนครบทั้ง 16 ฉบับ ที่กสทช.ยินยอมให้มีการแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ แม้จะเลิกสัญญากันแล้วเป็นเงินจำนวน 1,328 ล้านบาท แต่ ไทยทีวี มีคำขอท้ายฟ้องให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 16 ฉบับที่ลงวันที่ 10 ก.พ.57 ดังนั้น หากให้ กสทช.กระทำการข้างต้นต่อไปย่อมจะมีผลทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขได้ในภายหลัง

อีกทั้งการที่ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะผู้ค้ำประกันยังไม่จ่ายเงินตามสัญญาค้ำประกับให้กับ กสทช. ไม่ปรากฎหลักฐานว่าจะมีผลกระทบต่อการจัดทำบริการสาธารณะของกสทช. หรือเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐแต่อย่างใด จีงมีเหตุผลเพียงพอที่จะนำมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของไทยทีวี ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี ศาลจึงมีคำสั่งให้ กสทช. ซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีระงับการดำเนินการใดๆเพื่อบังคับตามหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพไว้เป็นการชั่วคราว

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช.เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลางภายใน 30 วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ