นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 อันดับธุรกิจเด่นในปี 2560 ประกอบด้วย อันดับ 1 ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม โดยมองจากกระแสการให้ความสำคัญในการรักษาสุขภาพและความงามยังมีอย่างต่อเนื่อง และการให้บริการทางการแพทย์และความงามในประเทศไทยมีคุณภาพดีและราคาไม่แพง ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV มีความเชื่อมั่นในการดูแลรักษาสุขภาพและความงามในประเทศไทย
อันดับ 2 ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว เนื่องจากพฤติกรรมการดูแลรักษาสุขภาพผิวพรรณของทุกช่วงอายุมีเพิ่มมากขึ้น และปัจจุบันมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงอายุ รวมถึงยังมีโอกาสสูงในการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มประเทศในอาเซียน และมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ระบบออนไลน์
อันดับ 3 ธุรกิจ e-commerce เนื่องจากปัจจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีแอพพลิเคชั่นในการเลือกซื้อสินค้าและบริการโดยมีส่วนลด หรือราคาพิเศษให้กับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐ
อันดับ 4 ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จากการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องผ่านการประชาสัมพันธ์ และมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้นจากการเดินหน้าปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (คอมพิวเตอร์ มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) โดยมองจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของไทยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์การสื่อสารหรือนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง และจากการส่งเสริมจากภาครัฐที่มีนโยบายส่งเสริมให้มีนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น
อันดับ 5 ธุรกิจก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง มองจากการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยมีงบประมาณกว่า 6 แสนล้านบาท การขยายส่วนต่อของการรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
อันดับ 6 ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ มองจากการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาค ทำให้การขนส่งกระจายพื้นที่มากขึ้น การพัฒนาเมือง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ความต้องการด้านการขนส่งเพิ่มมากขึ้น
อันดับ 7 ธุรกิจบริการทางการเงิน (เคาเตอร์เซอร์วิส ออนไลน์แบงค์กิ้ง ฟินเทค) มาจากการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการเงินในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้การสั่งซื้อสินค้าและการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 8 ธุรกิจโมเดิร์นเทรด มาจากการขยายตัวของร้านค้าสมัยใหม่ในชุมชนมากขึ้น การจัดโปรโมชั่นของผู้ให้บริการโมเดิร์นเทรด และการร่วมกับสถาบันการเงินจัดกิจกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่างๆ ธุรกิจประกัน มาจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยและการวางแผนทางการเงินของคนยุคปัจจุบัน และรัฐบาลส่งเสริมให้มีการทำประกันภัยมากขึ้น สำหรับธุรกิจออแกนไนซ์ มองจากกระแสการจัดงานแสดงสินค้า งานเลี้ยง งานสังสรรค์ในวาระต่างๆ ของผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นการบริโภคและสร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์ และจากการประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
อันดับ 9 ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มาจากความต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารเพิ่มสูงขึ้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มาจากการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น ซึ่งอันดับเท่ากับธุรกิจการศึกษา มาจากการแข่งขันด้านการศึกษาและการสอบวัดระดับต่างๆยังมีอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 10 ธุรกิจให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายและบัญชี มองจากการติดต่อการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านหรือต่างประเทศมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบของไทยมีมากขึ้น ทำให้ต้องมีการติดตามและปรับเปลี่ยนข้อสัญญาต่างๆ
ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วงในปี 60 ประกอบด้วย อันดับ 1 ธุรกิจฟอกย้อม อันดับ 2 ธุรกิจหัตถกรรม อันดับ 3 ธุรกิจนิตยสาร อันดับ 4 ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ อันดับ 5 ธุรกิจร้านเช่า VDO CD อันดับ 6 ธุรกิจสิ่งทอผ้าผืน อันดับ 7 ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์ อันดับ 8ธุรกิจโรงไม้ อันดับ 9 ธุรกิจเฟอนิเจอร์ 10.ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร