นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนเพื่อได้รับสิทธิในการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองในการส่งออกไปสมาพันธรัฐสวิสและราชอาณาจักรนอร์เวย์ ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกสามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของตนเองสำหรับการส่งออกสินค้าไปยังสมาพันธรัฐสวิสและราชอาณาจักรนอร์เวย์ เพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) แทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบเดิมได้ และจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2560 เป็นต้นไป
"การเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของตนเองจะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าไทยไปยังสวิสและนอร์เวย์ได้ง่ายขึ้น เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาให้กับผู้ส่งออก ทำให้ผู้ส่งออกไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดทั้ง 2 ได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และยังจะช่วยผลักดันให้การส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดทั้ง 2 ประเทศขยายตัวได้เพิ่มขึ้น" นางดวงพร กล่าว
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2559 การส่งออกไปสมาพันธรัฐสวิสของไทยมีมูลค่า 158,814 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์ เป็นต้น ขณะที่การส่งออกไปนอร์เวย์มีมูลค่า 5,226 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น