นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ธปท.ได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีของ ธปท.เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานสำหรับในช่วงปี 2560-2562 โดยเห็นว่าสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจและการเงินโลกในระยะต่อไปมีแนวโน้มผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และยากที่จะคาดการณ์มากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาในเชิงโครงสร้างและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง ขณะที่เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำและหนี้ครัวเรือน ตลอดจนเตรียมการเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและเศรษฐกิจดิจิทัล
"แผนยุทธศาสตร์ 3 ปีนี้ เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทาง โดยความสำเร็จของการเดินทางสู่เป้าหมายนั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการขับเคลื่อนที่ชัดเจน ตลอดจนความมุ่งมั่นและร่วมมือของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ธปท.มุ่งหวังว่าความสำเร็จของการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์นี้ จะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกภาคส่วน เพื่อความเป็นอยู่ที่ยังยืนของไทย" นายวิรไท ระบุ
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.การรักษาเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจการเงิน โดยมุ่งรักษาเสถียรภาพการเงินและเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะพัฒนาศักยภาพการติดตามและประเมินความเสี่ยงควบคู่ไปกับการเตรียมเครื่องมือด้านนโยบายให้พร้อมใช้อย่างทันท่วงที ตลอดจนผลักดันให้กลไกอัตราแลกเปลี่ยนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.การพัฒนาระบบการเงิน โดย ธปท.จะส่งเสริมให้ผู้ให้บริการการเงิน รวมทั้ง FinTech มีการแข่งขัน สร้างนวัตกรรมและบริการทางการเงินดิจิทัลที่ครบวงจร รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของผู้บริการเฉพาะทาง เพื่อลดช่องว่างของการเข้าถึงบริการทางการเงิน นอกจากนี้ ธปท.จะขับเคลื่อนให้มีการพัฒนาโครงสร้าพื้นฐานกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงของระบบการเงินกับต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพขึ้น และการยกระดับการกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้รับบริการอย่างเป็นธรรม
3.การสร้างความเข้มแข็งขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์นี้ให้สำเร็จ ซึ่ง ธปท.จำเป็นต้องยกระดับองค์กรให้ทันสมัย คล่องตัว โดยจะต้องพัฒนาใน 5 ด้านหลัก คือ 1.ระบบข้อมูลและการวิเคราะห์ 2.ความเป็นเลิศด้านวิจัย 3.ศักยภาพบุคลากร 4.ศักยภาพองค์กร และ 5.เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสและลดต้นทุนให้แก่ภาคธุรกิจและผู้ใช้บริการ แต่ในขณะเดียวกันอาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิถีชีวิต รูปแบบการดำเนินธุรกิจ และระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างคาดหวังให้ ธปท.ดูแลเสถียรภาพและส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจได้อย่างสมดุล
"ภายใต้บริบทดังกล่าว ธปท.ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยมุ่งหวังที่จะวางรากฐานการทำหน้าที่ของ ธปท.เพื่อส่งเสริมระบบเศรษฐกิจการเงินไทยให้มั่นคงและมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั่วถึง และพร้อมปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล" นายวิรไท กล่าว