บอร์ด กยท.อนุมัติร่างหลักเกณฑ์ช่วยเหลือชาวสวนยางภาคใต้ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม-แนะแนวทางฟื้นฟู

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 26, 2016 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย อนุมัติร่างระเบียบการยางแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ตามมาตรา 49 (5) พ.ศ. .... ประกาศใช้ทันที เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 พร้อมแนะเกษตรกรชาวสวนยางฟื้นฟูสวนยางหลังน้ำลดอย่างถูกวิธี

นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ เปิดเผยว่า คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย มีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้ร่างระเบียบการยางแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ตามมาตรา 49 (5) ของ พ.ร.บ. กยท. เพื่อเร่งให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2560 แก่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนกับทาง กยท. อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือเกษตรกรที่สวนยางประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ทันที

โดยในร่างระเบียบดังกล่าว จะให้เงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกรณีสวนยางประสบภัย ในอัตรารายละไม่เกิน 3,000 บาท นอกจากนี้ ยังจัดสรรสวัสดิการอื่นๆ แก่พี่น้องชาวสวนยาง อาทิ เงินให้แก่ทายาทของเกษตรกรชาวสวนยางกรณีเกษตรกรชาวสวนยางเสียชีวิต และเงินทุนกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ร่างระเบียบนี้จะเป็นการนำร่องประกาศใช้ และสามารถปรับเปลี่ยนการจัดสรรสวัสดิการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องตามสถานการณ์ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรตามกำหนดได้ในอนาคต

นายธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดในพื้นที่ภาคใต้ประสบปัญหาฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้สวนยางพาราของเกษตรกรชาวสวนยางได้รับผลกระทบและสวนยางพารามีน้ำท่วมขัง ในเบื้องต้น กยท.ได้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมผู้นำเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และหน่วยงานปกครองในจังหวัด มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรจากการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้

โดยผลการสำรวจ พบว่ามีเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ จำนวน 60,338 ราย และมีพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด ประมาณ 531,876 ไร่ แบ่งเป็น จังหวัดนครศรีธรรมราช 41,932 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 416,133 ไร่ จังหวัดพัทลุง 17,331 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 105,944 ไร่ จังหวัดตรัง 700 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 7,250 ไร่ จังหวัดสงขลา 353 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 2,396 ไร่ และจังหวัดนราธิวาส จำนวน 22 ราย มีพื้นที่ความเสียหายประมาณ 153 ไร่ อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ของ กยท.เข้าไปประเมินความเสียหายของพื้นที่สวนยางที่ถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งให้คำแนะนำดูแลสวนยางที่ถูกน้ำท่วมขัง เพื่อฟื้นฟูสวนยางอย่างถูกวิธี

นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า การดูแลสวนยางอย่างถูกวิธีหลังถูกน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรดำเนินการเร่งขุดร่องระบายน้ำ บริเวณกึ่งกลางระหว่างแถวยาง ออกจากสวนยางโดยเร็ว และควรใช้แรงงานคน หรือเครื่องจักรขนาดเล็กเท่านั้น ไม่ควรใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ขุดร่องน้ำ เพราะจะทำให้โครงสร้างของดินยังไม่แน่นพอเสียหาย อาจทำลายรากยางโดยตรง และควรงดใส่ปุ๋ยทุกชนิดในขณะที่ดินยังไม่แห้ง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะความเป็นพิษต่อต้นยาง เนื่องจากส่วนของรากขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นการซ้ำเติมต้นยางที่ทรุดโทรม รวมทั้งยังทำให้ต้นยางฟื้นตัวช้า อาจทำให้ต้นยางอ่อนแอกระทั่งถึงตายได้ ดังนั้นเกษตรกรควรรอให้ต้นยางฟื้นตัวและแข็งแรงดีเสียก่อน อย่างน้อยประมาณ 30 วัน จึงทำการใส่ปุ๋ย

หากกรณีต้นยางมีอายุไม่เกิน 1-4 ปี ให้เกษตรกรตัดแต่งกิ่งหลัก เพื่อลดน้ำหนักและลดการคายน้ำของต้นยาง พร้อมทั้งยกต้นยางให้ตั้งตรงโดยใช้ไม้ค้ำยัน เพื่อให้ต้นยางพารากลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น และลดอัตราความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางควรประเมินสภาพทั่วไปของสวนหลังน้ำลดในสภาพโดยรวม หากต้นยางได้รับความเสียหายมากกว่า 50% ของสวน และส่งผลต่อการปฏิบัติดูแลรักษา เกษตรกรอาจต้องทำการโค่นเพื่อปลูกซ่อมทดแทนต้นยางที่ตาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ