นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า ที่ประชุมบอร์ดบีโอไอรับทราบยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน 59) อยู่ที่ 500,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่า ทั้งปีจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 550,000 ล้านบาท โดยมียอดอนุมัติในโครงการลงทุนแล้ว 800,000 ล้านบาท ส่วนในปี 60 ตั้งเป้าหมายยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไว้ที่ 600,000 ล้านบาท
สำหรับแผนงานในปี 60 บีโอไอเตรียมปรับแผนยุทธศาสตร์ โดยเน้นการลงทุนที่มีความสมดุลทั้งเศรษฐกิจภายในและภายนอก ตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 และเน้นการลงทุนเชิงคุณภาพ ทั้งการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญมากขึ้นในการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมต่างๆ การสร้างผู้ประกอบการใหม่ในวิสาหกิจชุมชน และสร้างกลุ่ม Start up การมีนโยบายเพื่อเอสเอ็มอีในภาคการเกษตรมากขึ้น รวมถึงต่อยอดไปยัง 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ที่เน้นเรื่องนวัตกรรม และการเดินหน้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในโครงการต่างๆ ทั้งในเรื่องระบบขนส่ง ระบบราง รวมถึงกาคพัฒนาในเขตเศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก และการลงทุนในภาคการท่องเที่ยว เช่นการพัฒนาศูนย์การประชุม
นอกจากนี้ บีโอไอจะโฟกัสเข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพตอบโจทย์การลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เน้นไปยังประเทศ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮ่องกง พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดเทคโนโลยี ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0
ขณะเดียวกัน บีโอไอยังอยู่ระหว่างผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับ เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วย พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน พ.ร.บ.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก พ.ร.บ.เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมั่นใจว่าพ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับจะช่วยดึงดูดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น