รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่อำเภอปลวกแดง อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง คือ
1.กำหนดนิยามคำว่า “พื้นที่อ่างเก็บน้ำ" “พื้นที่ลำน้ำสายหลัก" “พื้นที่ลำน้ำใต้อ่างเก็บน้ำ" “พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2" “การจัดสรรที่ดินเพื่อประกอบอุตสาหกรรม" “เขตนิคมอุตสาหกรรม" และ “เขตประกอบการอุตสาหกรรม"
2.กำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และจำแนกขอบเขตพื้นที่เป็นบริเวณย่อย เพื่อเป็นฐานในการกำหนดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
3.กำหนดมาตรการห้ามการกระทำหรือกิจกรรมใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดผลกระทบเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ของพื้นที่จากลักษณะตามธรรมชาติและควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อรักษาสภาพธรรมชาติมิให้กระทบกระเทือนต่อระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติ เช่น โรงเพาะฟักลูกกุ้ง ใช้พื้นที่เป็นที่ทิ้งกากอุตสาหกรรม หรือกำจัดมูลฝอยรวม เป็นต้น
4.กำหนดให้เจ้าของอาคารหรือโครงการเก็บสถิติและข้อมูลแสดงผลการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสีย และจัดทำรายงานสรุปผลการทำงานของระบบบำบัดน้ำเสียตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 และข้อมูลวัตถุอันตราย เสนอต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยองทุกเดือน
5.กำหนดให้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) หรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระเบียบปฏิบัติที่กำหนดไว้ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
6.กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลและติดตามผลการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง เป็นกรรมการและเลขานุการ ให้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาจัดทำแผนฟื้นฟู รวมทั้งดูแล ติดตาม ตรวจสอบ การบังคับใช้มาตราคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยให้รายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง