นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากกลุ่มผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่น กรณีที่ กสทช.ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) เป็นระยะเวลา 3 ปี ให้กับเฉพาะดาวเทียม ทั้งๆ ที่ กสทช. มีคำสั่งให้โครงข่ายที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ซึ่งประกอบด้วย โครงข่ายดาวเทียมและโครงข่ายเคเบิลท้องถิ่นมีหน้าที่ต้องนำช่องทีวีดิจิตอล ช่องที่ 1-36 ไปเผยแพร่บนโครงข่ายของตนเอง โดยผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่นเห็นว่าควรจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้กับเคเบิลท้องถิ่นด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเสมอภาค
“วันนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเคเบิลทีวีท้องถิ่น ซึ่งมากันหลายองค์กรได้รับทราบความเดือดร้อนที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการนำสัญญาณทีวีดิจิตอลไปออกอากาศ โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการสนับสนุนค่า Must Carry ให้กับผู้ประกอบกิจการเคเบิลท้องถิ่น เพราะหากเคเบิลท้องถิ่นอยู่รอดได้จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับผู้บริโภค ทำให้มีทางเลือกในการรับชมในช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ผูกขาดอยู่กับเคเบิลระดับชาติรายใดรายหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่ได้รับหนังสือแล้วจะส่งไปยังสำนักงานฯ เพื่อนำเสนอเข้าบอร์ด กสท. ต่อไป นอกจากนี้กลุ่มผู้ประกอบกิจการเคเบิลทีวีควรไปร้องขอความเป็นธรรมกับ คสช. อีกทางด้วย"นางสาวสุภิญญา กล่าว
ทั้งนี้ การสนับสนุนค่าใช้จ่าย Must carry เป็นไปตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 76/2559 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ข้อ 6 ระบุให้ กสทช. และสำนักงาน กสทช. หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ จัดให้มีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่าน “ดาวเทียม" ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปด้วย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา