ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน สายกำกับสถาบันการเงิน ได้ออกหนังสือเวียน เรื่องการขายผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ โดยเน้นย้ำธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามประกาศและแนวนโยบายของ ธปท. ที่เกี่ยวข้องกับการแนะนำหรือนำเสนอบริการการประกันภัย โดยต้องควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับภายในของธนาคารพาณิชย์
ตลอดจนตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายและหลักเกณฑ์ของทางการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งในการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพียงอย่างเดียว และการขายประกันภัยควบคู่กับผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นของธนาคารพาณิชย์
ธปท.ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์ และเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภคตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ธนาคารพาณิชย์ควรควบคุมดูแลระบบงานต่างๆ ให้ครอบคลุมถึงการกำหนดแผนธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กระบวนการขายและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งของธนาคารพาณิชย์เองและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ และควรคำนึงถึงประเด็นดังต่อไปนี้
1. การเสนอขายประกันชีวิตที่อาจทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดว่าเป็นเงินฝาก
2. การเสนอขายประกันภัย ควรสอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของลูกค้า ทั้งในเรื่องความสามารถในการชำระค่าเบี้ยประกันภัยในอนาคต และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์
3. ในการเสนอขายประกันภัยหรือขายประกันภัยควบคู่เงินฝาก ควรชี้แจงถึงข้อมูลผลประโยชน์และเงื่อนไขที่อาจทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเข้าใจง่าย โดยเฉพาะลักษณะที่แตกต่างระหว่างการประกันภัยและเงินฝาก
4. ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ในด้านเงินฝาก สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์พื้นฐานอื่นๆ ต้องไม่บังคับขายประกันภัยควบคู่กับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
5. การเสนอขายประกันภัย ต้องกระทำโดยพนักงานที่ได้รับใบอนุญาต และต้องแสดงตนให้ลูกค้าเข้าใจว่ามีคุณสมบัติดังกล่าวก่อนเริ่มเสนอขาย รวมทั้งกำกับดูแลมิให้พนักงานที่ไม่ได้รับใบอนุญาตเสนอขายประกันภัยต่อลูกค้า
พร้อมกันนี้ ธปท.ยังได้ออกหนังสือเวียน เรื่อง การขายผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน โดยระบุว่า ในการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และการให้สินเชื่อของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ซึ่งมีการเสนอขายประกันภัยผ่านผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับนั้น บริษัทที่ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินควรให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับภายในเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจดังกล่าวของบริษัท ตลอดจนกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
อนึ่ง เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจควรคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค 4 ประการ ได้แก่ (1) สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง (2) สิทธิที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้อย่างอิสระ (3) สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม และ (4) สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย จึงควรควบคุมดูแลระบบงานต่างๆ ให้ครอบคลุมถึงการกำหนดแผนธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กระบวนการขาย และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้
1. การประกอบธุรกิจบัตรเครดิตและการให้สินเชื่อของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ไม่ควรบังคับขายประกันภัยกับลูกค้า อันอาจมีผลต่อการพิจารณาออกบัตรเครดิต หรือการอนุมัติสินเชื่อ
2. การให้บริการธุรกิจบัตรเครดิตและการให้สินเชื่อของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินที่มีการเสนอขายประกันภัยในคราวเดียวกัน ควรปฏิบัติดังนี้
2.1 ชี้แจงถึงข้อมูลการประกันภัยเกี่ยวกับผลประโยชน์และเงื่อนไขที่อาจทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเข้าใจง่าย
2.2 เสนอขายประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการและความสามารถของลูกค้า ทั้งความสามารถในการชำระค่าเบี้ยประกันภัย และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์
2.3 เสนอขายประกันภัยโดยพนักงานที่ได้รับใบอนุญาต และมีการแสดงตนให้ลูกค้าเข้าใจว่ามีคุณสมบัติดังกล่าวก่อนเริ่มเสนอขาย รวมทั้งกำกับดูแลมิให้พนักงานที่ไม่ได้รับใบอนุญาตเสนอขายประกันภัยต่อลูกค้า