นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ข้าวหอมมะลิไทยถูกโจมตีว่ามีสิ่งปลอมปน รวมถึงกรณีผลไม้กระป๋องจากประเทศไทยถูกโจมตีว่าปนเปื้อนเชื้อเอชไอวี (HIV) ทางสื่อโซเชียลมีเดียในต่างประเทศว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศหรือทูตพาณิชย์ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่เกิดเหตุและเป็นตลาดหลัก เร่งชี้แจงข้อเท็จจริงกับนักธุรกิจ ผู้นำเข้า และผู้บริโภค ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประสานภาคเอกชน สมาคมที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลชี้แจงถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
"กรณีข้าวหอมมะลินั้น ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประสานงานกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อนำข้อเท็จจริงไปประชาสัมพันธ์ผ่านทูตพาณิชย์ทั่วโลก โดยยืนยันว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวด ที่สำคัญประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฐานะครัวของโลก" รมว.พาณิชย์กล่าว
จากการสอบถามบริษัท สยามเกรนส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิดังกล่าวไปยังภูมิภาคอเมริกา ทราบว่าบริษัทไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะมั่นใจว่าสินค้าของบริษัทไม่มีการปลอมปนอย่างแน่นอน เนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตและบรรจุที่ทันสมัย สามารถคัดกรองสิ่งปนเปื้อนออกได้ทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทแจ้งว่า ผู้นำเข้าสินค้าของบริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนการหารือเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย โดยในเบื้องต้นได้ประสานงานกับทูตพาณิชย์ ณ นครนิวยอร์ก นครลอสแอนเจลิส และนครแวนคูเวอร์ แล้ว
ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ ว่า ได้ประสานบริษัท เวสเทิร์น ไรซ์ มิลล์ (Western Rice Mill) ผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิไทยแล้ว โดยได้ให้ข้อมูลชี้แจงจากกรมการค้าต่างประเทศแก่บริษัท เพื่อประกอบการส่งอีเมล์แจ้งข้อเท็จจริงไปยังกลุ่มลูกค้า
นอกจากนี้ สำนักงานฯ จะเร่งส่งอีเมล์ให้แก่ผู้นำเข้ารายอื่นๆ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และหยุดกระแสข่าวที่สร้างความวิตกกังวลในกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าชาวเอเชียซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่บริโภคข้าวหอมมะลิคุณภาพดีจากไทย
ทั้งนี้ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์วิเคราะห์และคาดการณ์ปริมาณความต้องการข้าวไทยของประเทศต่างๆ ทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า รวมถึงคู่แข่งรายสำคัญ และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวไทย เพื่อนำมาวางแผนผลักดันการส่งออกข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิในปี 60 นี้ด้วย
ส่วนกรณีผลไม้กระป๋องที่ถูกโจมตีว่ามีเชื้อเอชไอวีนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประสานขอความร่วมมือกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าเป็นข่าวที่ไม่มีมูลความจริง เนื่องจากเชื้อเอชไอวีที่สามารถถ่ายทอดถึงกันได้ต้องเป็นเชื้อที่อยู่ในร่างกายมนุษย์เท่านั้น อีกทั้งเชื้อเอชไอวีไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกและถูกทำลายได้ด้วยความร้อน 56 องศาเซลเซียส และน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ เป็นต้น โดยกรมฯ ได้ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ให้ทูตพาณิชย์นำไปเผยแพร่ในต่างประเทศผ่านทุกช่องทาง ตลอดจนประสานกระทรวงการต่างประเทศ ในการชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านทั้งสถานทูตไทยในต่างประเทศ และสถานทูตต่างประเทศในประเทศไทย
"ทูตพาณิชย์ของเรายืนยันว่าผู้นำเข้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ มีความรู้และเข้าใจดีว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และยังคงมีความเชื่อมั่นในคุณภาพผลไม้กระป๋องจากประเทศไทย ที่มีกระบวนการการบรรจุที่ได้มาตรฐานผ่านการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสต่างๆ ตามหลักสากล อีกทั้งพนักงานมีการป้องกันการติดเชื้อและการรักษาความสะอาดในทุกกระบวนการผลิต" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าว
อนึ่ง ข่าวโจมตีผลไม้กระป๋องจากประเทศไทยนี้ เป็นข้อมูลที่ส่งต่อทางสื่อโซเชียลมีเดียตั้งแต่ปี 57 ซึ่งในครั้งนั้นฝ่ายไทยโดยภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ตัวอย่างเช่น สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงจาการ์ตา ได้ประสานหน่วยงานอาหารและยาของอินโดนีเซียในการออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี