นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) และผู้ก่อตั้งหลักสูตร The NEXT Real กล่าวถึง ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปี 60 ว่า ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ปีนี้น่าจะไม่ได้แย่ไปกว่าปีก่อน จากกำลังซื้อที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น,การลงทุนภาครัฐที่เริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ก็คาดหวังว่าการส่งออก สินค้าเกษตร และการท่องเที่ยว หรือทัวร์จีน น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งน่าจะหนุนให้อสังหาริมทรัพย์เติบโตไปได้
สำหรับ segment ระดับราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะไปได้ดีในปีนี้ เชื่อว่าตลาดระดับกลางยังไปได้ดี แต่ก็จะเป็นในบางพื้นที่ ที่ยังมีความต้องการอยู่ ขณะที่ตลาดใหม่ๆ หรือทำเลใหม่ที่น่าจะได้รับความสนใจ มองว่าทาวน์โฮม ราคาระดับไฮเอ็น และบ้านเดี่ยวในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น ขอนแก่น,นครราชสีมา เป็นต้น รวมถึงบ้านระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท น่าจะได้รับความน่าสนใจจากผู้อาศัยมากขึ้น
ทั้งนี้ ความเสี่ยงในปีนี้ มองว่าอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ยังคงได้รับผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ยังคงมีความเข้มงวด ส่งผลทำให้ยอดปฎิเสธสินเชื่อน่าจะอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมายอดปฎิเสธสินเชื่อในตลาดระดับล่างหรือมีระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท อยู่ที่ 30-50% โดยแนะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ควรกำหนดเงินดาวน์ของโครงการนั้นๆ ให้สูงขึ้นประมาณ 10-15% เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มียอดปฎิเสธสินเชื่อ รวมถึงเป็นการฝึกวินัยการออมเงินของลูกค้า ก่อนมาซื้อที่อยู่อาศัย และเพื่อไม่ให้เกิดการผ่อนชำระไม่ได้ในอนาคต หลังเริ่มพบว่ามี หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เกิดขึ้นกับลูกค้าที่มีการผ่อนชำระมานานถึง 4-5 ปี
"ในปี 60 มองว่ายอดปฎิเสธสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ยังคงเข้มงวดอยู่ แต่ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์น่าจะไม่ได้แย่ไปกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยกำลังซื้อดีขึ้น และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าของตัวเอง เช่น ให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระกับโครงการก่อน และเมื่อเห็นว่าลูกค้าสามารถผ่อนชำระได้ในระดับที่ดีแล้ว ก็จะส่งให้เป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ต่อไป ซึ่งก็จะทำให้ธนาคารค่อนข้างจะสบายใจและลดยอดการปฎิเสธสินเชื่อได้ด้วย อีกทั้งผู้ประกอบการก็ยังมีการตั้งเงินดาวน์ให้สูงขึ้น เพื่อลดปัญหาต่างๆ"นายอนันต์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของผังเมืองใหม่ ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 60 ซึ่งก็เป็นไปตามกฎหมายที่ได้กำหนดให้แต่ละผังเมืองมีอายุบังคับใช้ 5 ปี โดยเชื่อว่า พ.ร.บ.การผังเมืองใหม่ น่าจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านเรือนชุมชน ในกรุงเทพฯ