นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน เตรียมนำคณะผู้ซื้อจากเขตปลอดภาษีเกาะคีช (Kish Free Zone) ประเทศอิหร่าน ประมาณ 20-30 ราย เดินทางมาเจรจาธุรกิจและสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์กับผู้ประกอบการไทย ระหว่างวันที่ 19-20 มกราคม 2560 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิล์ด เพื่อนำไปจำหน่ายในเทศกาลปีใหม่ของอิหร่านซึ่งเริ่มต้นในปลายเดือนมีนาคมของทุกปี
สำหรับเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลโนรูส (Norooz) เป็นช่วงวันหยุดยาวประจำปีของอิหร่าน ที่มีการเฉลิมฉลองและมีเม็ดเงินใช้จ่ายสะพัดทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ และการซื้อของขวัญมอบให้แก่กันและกัน เทศกาลดังกล่าวเริ่มขึ้นในวันที่ 21 มีนาคมของทุกปี และจะมีการเฉลิมฉลองต่อเนื่องกันไปเป็นเวลา 13 วัน
"กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเล็งเห็นถึงโอกาสการส่งออกสินค้าคุณภาพของไทยเพื่อจำหน่ายในเทศกาลดังกล่าว จึงได้เชิญผู้ซื้อรายสำคัญจากเขตปลอดภาษีเกาะคีชซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งชอปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศอิหร่านจำนวนประมาณ 20-30 ราย เดินทางมาเจรจาการค้าและสั่งซื้อสินค้าในไทย เพื่อนำกลับไปจำหน่ายให้ทันก่อนการเริ่มต้นเทศกาลปีใหม่ของอิหร่าน" นางมาลี กล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดและเป็นเป้าหมายของการสั่งซื้อในครั้งนี้ คือ สินค้ากลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ เช่น สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี และเสื้อผ้าเด็ก ของขวัญของชำร่วย ของประดับตกแต่งและของใช้ภายในบ้าน เป็นต้น โดยผู้ซื้อที่เดินทางเยือนประเทศไทยครั้งนี้เป็นผู้นำเข้าอิสระและผู้จัดจำหน่ายให้กับห้างร้านของอิหร่าน ทั้งที่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และร้านค้ารายย่อยที่มีจำนวนกว่า 2 พันร้านกระจายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วเกาะคีช
"คาดว่าการสั่งซื้อในครั้งนี้จะมีมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากผลสำเร็จที่เป็นมูลค่าการส่งออกแล้ว การเดินทางเยือนไทยของคณะฯ จะนำไปสู่การเปิดตลาดสินค้าศักยภาพของไทยในประเทศอิหร่าน โดยเฉพาะในเกาะคีช ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของอิหร่านและประเทศรอบอ่าวที่มีประชากรรวมกว่า 300 ล้านคน เช่น โอมาน กาต้าร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตซ์ ตลอดจนประเทศเพื่อนบ้านของอิหร่าน เช่น อิรัก ซีเรีย และตุรกี เป็นต้น ด้วยความเป็นเขตปลอดภาษีและปลอดวีซ่าของเกาะคีช จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในเกาะคีช จึงมีปริมาณการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวถึงกว่า 1.7 ล้านคน และส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ส่งผลให้มีการพัฒนาโครงการด้านที่พักอาศัยขนาดใหญ่ มีโรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างกว่า 70 แห่งในปัจจุบัน" นางมาลี กล่าว