ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดตลาดท่องเที่ยวปี 60 ยังมีแนวโน้มสดใส คาดนทท.แตะ 33.50-34.15 ล้านคน สร้างรายได้ 1.76-1.79 ล้านลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 11, 2017 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 60 ยังมีทิศทางที่ดี แม้ในช่วงต้นปีสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคใต้บางแห่ง ประกอบกับอาจจะยังเห็นภาพของการชะลอตัวลงบ้างในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยวจากผลของการจัดระเบียบธุรกิจนำเที่ยว แต่สถานการณ์น้ำท่วมเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้น อีกทั้งผลจากการเร่งแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจีน น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ทยอยปรับตัวดีขึ้น และการจัดระเบียบทัวร์ของทางการในครั้งนี้ จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวของไทยในระยะยาวมีคุณภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ การทำตลาดที่เข้มข้นของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และปัจจัยหนุนต่อเนื่องยังมาจากการที่หลายสายการบินต่างชาติให้ความสนใจที่จะขยายเส้นทางการบินและเพิ่มปริมาณเที่ยวบินมายังประเทศไทย (จากรายงานของการท่าอากาศยาน พบว่า ในปีงบประมาณ 59 ที่ผ่านมา จำนวนเที่ยวบินต่างประเทศที่บินเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น 10.2% จากปีงบประมาณ 58) โดยเฉพาะในระยะหลังสายการบินต้นทุนต่ำระยะไกลได้ขยายเส้นทางมาประเทศไทยมากขึ้น การเดินทางที่ถูกลงจะช่วยหนุนการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อีกทั้งตลาดนักท่องเที่ยวหลายชาติยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอาเซียน ซึ่งภาครัฐมีนโยบายในการที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน ตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปที่ยังมีแนวโน้มสดใสทั้งนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักๆ อย่างอังกฤษ เยอรมนี หรือฝรั่งเศส ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่น่าสนใจ คือ ตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 60 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียอาจจะกลับมาติดอันดับ 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาสูงสุด เหมือนในปี 57 ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจรัสเซียที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตเป็นบวกในปี 60 เช่นเดียวกับค่าเงินรูเบิลมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากที่อ่อนค่าลงอย่างแรง

นอกจากนี้ตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นตลาดที่น่าจะเติบโตดี เห็นได้ว่าในปี 59 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ มีอัตราการเติบโตประมาณ 13.2% จากปี 58 ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการเติบโตของตลาดรวม โดยตลาดที่น่าสนใจในภูมิภาคนี้ จะเป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และนักท่องเที่ยวจากอิหร่าน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจากอิหร่านจะกลับมาเป็นตลาดสำคัญ 1 ใน 3 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ภายหลังจากที่มีการเปิดเส้นทางการบินทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวอิหร่านนี้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20.0% ในปี 59 ที่ผ่านมา

จากบรรยากาศข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 60 นี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจะมีจำนวนประมาณ 33.50-34.15 ล้านคน หรือเติบโตประมาณ 2.8-4.8% ชะลอลงจากที่เติบโตที่ 8.9% ในปี 59 อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม ทั้งปัจจัยด้านมหภาคอย่างทิศทางเศรษฐกิจและค่าเงินของตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ นโยบายการดึงดูดนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ และปัจจัยด้านจุลภาคอย่างการแข่งขันกันทำตลาดในธุรกิจท่องเที่ยวที่จะมีผลต่อจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เป็นต้น

ขณะที่คาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.76-1.79 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3-9.1% จากปี 59 นอกจากนี้ในปี 60 หน่วยงานภาครัฐมีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวอาเซียน พร้อมกับทำตลาดผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ที่ช่วยกระจายเม็ดเงินลงสู่ภาคธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวโดยตรง

นอกจากนี้ ในปี 60 นี้ หน่วยงานภาครัฐมีนโยบายการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอาเซียน โดยมีการวางเป้าหมายลงไปยังผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว 5 ประเภท ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) การเป็นศูนย์กลางการจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance) การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอาเซียน (ASEAN Connect)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การที่ภาครัฐมีแผนที่จะผลักดันการท่องเที่ยวใหม่ เป็นโอกาสของภาคธุรกิจไทยที่อยู่ในห่วงโซ่ของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวนั้น โดยภาคธุรกิจที่มีความพร้อม หรือต้องการจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่อาจจะต้องมีการปรับแผนธุรกิจขับคลื่อนไปพร้อมกันเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว อาทิ ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและที่พัก อาจจะมีการปรับกลยุทธ์การตลาดและการบริการเพิ่มตามกลุ่มลูกค้าใหม่(Customer Segmentation) อาทิ กลุ่มนักกีฬา ที่อาจจะต้องมีสถานที่ฝึกซ้อมหรือออกกำลังกายที่ได้มาตรฐาน การบริการด้านอาหารที่มีความหลากหลายที่สอดคล้องกับกลุ่มนักกีฬา ในส่วนของธุรกิจบริษัทนำเที่ยว ควรจะเพิ่มการตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และธุรกิจรับจัดงาน อาจจะต้องหาเครือข่ายพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ