นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (
กฟผ.) คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 17
ก.พ.นี้จะพิจารณาเรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หลังยังมีความขัดแย้งจากหลายฝ่าย โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เป็น 1 ใน 6 โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะเกิดขึ้นใหม่ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ ปี 58-79 (PDP2015) โดยเป็นโรงไฟฟ้าขนาด 800 เมกะวัตต์ ซึ่งตามแผนจะต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าปลายปี 62 แต่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งน่าจะมีความล่าช้ามาแล้ว 2 ปี
ขณะที่ความคืบหน้าของการก่อสร้างสายส่งเพื่อรองรับโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 5,000 เมกะวัตต์ของกลุ่มกัลฟ์ฯ ที่เป็นผู้ชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รอบล่าสุดนั้น
กฟผ.อยู่ระหว่างการสำรวจรายละเอียดเพื่อเตรียมแผนการก่อสร้างสายส่งมูลค่า 7,250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ารัฐบาลน่าจะมีข้อสรุปออกมาได้ภายในปีนี้ เพราะสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ของกลุ่มกัลฟ์ดังกล่าวยังคงมีอยู่
กฟผ.ก็ต้องสร้างระบบสายส่งเพื่อรองรับกำลังผลิตไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างสายส่งได้ในปี 61
อนึ่ง เมื่อปลายปี 59 ศาลปกครองกลาง เผยแพร่คำสั่งห้ามกระทรวงพลังงาน ดำเนินการตรวจสอบหรือกระทำด้วยวิธีการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่กลุ่มกัลฟ์ฯ ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี รวมทั้งนำเอาผลการตรวจสอบการประมูลการรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการ IPP ไปใช้หรืออ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นการภายในหรือต่อหน่วยงานอื่นที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดี และให้กระทรวงพลังงานแจ้งยกเลิกหนังสือที่ส่งไปถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้ชะลอการสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนกับกลุ่มกัลฟ์ฯด้วย
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว โดยได้ชี้แจงว่าสิ่งที่กระทรวงดำเนินการเป็นไปตามหน้าที่และเพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งคงต้องรอผลจากการอุทธรณ์ดังกล่าวว่าการดำเนินโครงการจะเป็นอย่างไรต่อไป ขณะที่ก็ยังมีการหารือเรื่องขอให้กลุ่มกัลฟ์ฯ ชะลอโครงการออกไปเพื่อเป็นทางออกในเรื่องความเหมาะสมของปริมาณสำรองไฟฟ้า ซึ่งกัลฟ์ฯ เองก็ได้ยื่นข้อเสนอที่จะชะลอโครงการด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ โครงการ IPP ของกลุ่มกัลฟ์ฯ จะแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจะเข้าระบบ 2,500 เมกะวัตต์ ในปี 64 ส่วนที่เหลือจะเข้าระบบในช่วงถัดไป
--อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--