นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 59 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองหนี้สงสัยจะสูญกว่า 25,000 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิกว่า 60,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน มาจากการบริหารพอร์ตสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและสภาพคล่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเงินรางวัลต่ำกว่าปีก่อน และรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แม้ว่าปีนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 0.18% (3,446 ล้านบาท) และนำเงินส่งกระทรวงการคลังและนำส่งระหว่างกาลกว่า 13,000 ล้านบาท ทำให้มีอัตรารายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์สุทธิเฉลี่ย (NIM) 2.51% และสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อรายได้รวมสุทธิ 88.25%
ขณะที่มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จำนวน 5,368 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน โดยมาจากธุรกิจบัตรและบริการอิเล็กทรอนิกส์ ค่านายหน้าและรับชำระค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์-บริการ และทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่จูงใจลูกค้า โดยสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิต่อรายได้รวมสุทธิคิดเป็น 7.00% โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ธนาคารฯ มีสินทรัพย์รวม 2,509,579 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 จำนวน 109,111 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.55% มีการบริหารเป็นไปตามกรอบทิศทางที่กำหนดไว้
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวต่อไปว่า ภารกิจด้านการส่งเสริมการออม ในฐานะสถาบันเพื่อการออม ปรากฏว่า มียอดเงินฝากรวม 2,160,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2558 จำนวน 77,601 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.73% โดยในปี 59 ธนาคารฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากหลากหลายที่ตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้ออมเงิน ทั้งเงินฝากและสลากออมสินพิเศษ 3 ปี และสลากออมสินพิเศษ 5 ปีสำหรับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 59 อยู่ที่ 1,901,851 ล้านบาท มียอดลดลงจากสิ้นปี 58 จำนวน 17,808 ล้านบาท ซึ่งลดลง 0.93% โดยเฉพาะจากการรับชำระคืนก่อนกำหนดของสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ กว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมยอดชำระคืนดังกล่าว เงินให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อยและ SME ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
“ในปี 59 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารออมสินสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไขที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการตามมาตรการประชารัฐต่างๆ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบอาชีพรายย่อยในชุมชนเมือง จำนวน 150,000 ราย และมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ"นายชาติชาย กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ มีการแก้ไขตามลำดับความสำคัญและอายุหนี้ การเจรจาไกล่เกลี่ย และการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับดี โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 59 มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 38,720 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.04% ของสินเชื่อรวม เป็นไปตามเป้าหมายและต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน
นายชาติชาย กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2560 ว่า ธนาคารออมสินจะดำเนินงานภายใต้ทิศทางที่ธนาคารฯ กำหนดไว้ 6 ด้าน คือ 1.การบริหารแบบเศรษฐกิจพอเพียง 2.ส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงิน 3.แก้ไขหนี้นอกระบบ 4.ธนาคารผู้สูงวัย 5.SME Start up และ 6.Digi-Thai Banking ดำเนินภายใต้กลยุทธ์ตามกลุ่มลูกค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มลูกค้าฐานราก 2.กลุ่มลูกค้าบุคคล และ 3.กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ