นายชัยนิวัฒน์ คงศิลป์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท กรี อิเลคทริค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ“กรี"ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายประมาณ 400 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 50% แบ่งเป็นยอดขายจากแอร์ขนาดเล็ก 400 ล้านบาท และแอร์เชิงพาณิชย์ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งหวังจะขึ้นเป็นแบรนด์แอร์ที่ติดท๊อป 5 ในประเทศไทยภายในปี 63 จากปัจจุบันที่มั่นใจว่าติดอันดับ 1 ใน 10 แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยประมาณ 7 ปี โดยปัจจุบันมีสัดส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 3% โดยบริษัทมีนโยบายเพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย 4 ด้านคือ
1.ด้านผลิตภัณฑ์ โดยปีนี้จะนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มแอร์บ้านที่มีนวัตกรรมและประสิทธิภาพสูงมากขึ้น และช่วยอนุรักษ์เรื่องของสิ่งแวดล้อมเข้าทำตลาดมากขึ้น อาทิ แอร์กลุ่มU-Crown Invertor ที่ประหยัดพลังงานสูงสุด มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และใช้น้ำยาแอร์ R32 ที่ช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม แอร์ที่เป็นลักษณะกรอบรูปภาพ เป็นต้น และกลุ่มแอร์เชิงพาณิชย์ที่จะเน้นการทำตลาดมากขึ้น หวังเจาะกลุ่มผู้ประกอบการ หรือโครงการใหญ่
2.ด้านการตลาดและบริการหลังขาย บริษัทจะปรับเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนหรือร้านค้าให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีดีลเลอร์ประมาณ 100 ราย โดยการเพิ่มสิทธิประโยชน์และจัดกิจกรรมดึงดูตัวแทน รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนพนักงานช่างและอบรมช่างผ่านตัวแทนจำหน่ายให้มากขึ้น รองรับการขยายตัวของลูกค้าอย่างเพียงพอ
3.ด้านการจัดการส่งเสริมการขาย บริษัทยังจะใช้แคมเปญที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ คือการรับประกันคอมเพรสเซอร์แอร์ 10 ปี และอะไหล่ฟรี 5 ปี ซึ่งถือว่ามากที่สุดในตลาด และสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อว่านอกจากจะได้แอร์ที่มี่คุณภาพที่ดี แล้วยังได้รับการรับประกันที่ดีอีกด้วย
สุดท้าย การวางแผนประชาสัมพันธ์ทั้งแบบออนไลน์ โดยผ่านทางโซเชียล มีเดีย เช่น ยูทูป เฟสบุ๊ค เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อแอร์ การดำเนินการผ่านทางออฟไลน์อย่างเข่น สื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี ซึ่งล่าสุดบริษัทได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ในแนวคิด “แอร์กรี เทคโนโลยีที่ดีที่สุด" เพื่อเตรียมออกอากาศเพื่อทำตลาดในช่วงก่อนฤดูร้อน
สำหรับผลประกอบการของปี 59 ในเบื้องต้นมียอดขายประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งอาจต่ำกว่าเป้าหมาย 500 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 หากเปรียบเทียบกับยอดขายของปี 58 ที่ได้ 300 ล้านบาท แต่หากคิดเฉพาะยอดขายแอร์ขนาดเล็ก สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 100%