นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งจะเป็นกลไกที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการทุกวงจรได้ โดยกฎหมายดังกล่าวจะจำกัดให้เจ้าหนี้นอกระบบไม่ให้ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด เพราะหากฝ่าฝืนจะมีโทษทางอาญา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยไม่ให้ประชาชนที่มีความต้องการใช้เงินจริงไม่ต้องเจออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงเกินจริง
ทั้งนี้ ภาครัฐได้มีทางออกให้เจ้าหนี้นอกระบบ โดยได้เปิดทางให้สามารถเข้ามาดำเนินการปล่อยกู้ในระบบแบบถูกกฎหมายได้ภายใต้โครงการพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งสามารถปล่อยกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 36% และจะปล่อยได้เฉพาะในจังหวัดที่ได้ทำการจดทะเบียนไว้เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดดังกล่าวเจ้าหนี้จะอยู่ได้ และประชาชนที่ขาดเงินก็จะมีความสามารถในการกู้เงินได้เช่นกัน
ขณะที่ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เปิดหน่วยพิเศษเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีความต้องการและจำเป็นต้องใช้เงินอย่างแท้จริง โดยหลักการให้ความช่วยเหลือจะดูที่ความจำเป็นในการใช้เงินของประชาชนมากกว่าความสามารถในการชำระคืน โดยให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. แยกบัญชี (PSA) และรัฐบาลจะชดเชยให้ในอัตรา 50%
นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมให้โครงการธนาคารประชาชน และธนาคารชุมชน เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการมากขึ้น ขณะที่สัดส่วนหนี้นอกระบบที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ก็จะมีคณะกรรมการเข้ามาดูแลเจรจาเพื่อให้กลับมามีสถานะผ่อนชำระปกติ และเมื่อประชาชนได้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แพงก็จะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้มีมากขึ้น ก็จะไม่กลายมาเป็นหนี้นอกระบบในที่สุด
"ตอนนี้เราได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ โดยตั้งเป้าหมายแก้ปัญหาให้ได้ทั้งหมดในระบบ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขเกณฑ์การจดทะเบียนพิโกไฟแนนซ์ เพราะได้มีการพิจารณาหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมเพียงพอแล้ว" นายอภิศักดิ์ กล่าว