นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (peak) ปีนี้จะเพิ่มขึ้นราว 2% มาอยู่ที่ระดับ 31,000 เมกะวัตต์ จากระดับ 30,600 เมกะวัตต์ในปี 59 เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน อย่างไรก็ตาม สนพ.จะติดตามเพื่อประเมินการใช้ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด และจะเตรียมแผนรับมือเพื่อจะพยายามควบุคมไม่ให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีนี้เกินเป้าหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานวางแผนแก้ปัญหาพีคที่คาดว่าจะเกิดในช่วงฤดูร้อน โดยนำมาตรการส่งเสริมการลดใช้ไฟฟ้า (Demand Response Rate:DR) มาใช้ลดพีคที่จะเกิดขึ้น โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการลดใช้ไฟฟ้าช่วงพีคจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนเงินตามที่ภาครัฐกำหนดไว้ และทำให้พีคลดลงได้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ออกมาตรการส่งเสริมหน่วยงานราชการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าใช้เอง โดยเฉพาะการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) โดยอนุมัติงบ 6,000 ล้านบาทสำหรับโครงการดังกล่าวแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศลงได้อีกส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ สนพ.ยังได้เจรจากับผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในเมียนมา ที่ได้แจ้งแผนการซ่อมบำรุงประจำปีมายังแล้ว แต่ทางไทยต้องการให้การปิดซ่อมบำรุงอยู่ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่มากด้วย ขณะที่การปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯในปีนี้คาดว่าจะมีอยู่ทั้งหมด 7-8 ช่วง
นายทวารัฐ กล่าวด้วยว่า สนพ.ยังเตรียมเสนอแผนการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่ง ต่อที่ประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่ง ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ภายใน 1-2 เดือนนี้ โดยมุ่งเป้าหมายลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยจะเสนอให้มีการเร่งรัดพัฒนาการขนส่งระบบรางให้เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ และแผนการพัฒนาเมือง รวมถึงมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) เป็นต้น