นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนได้นำคณะนักธุรกิจไทยเดินทางไปยังนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 15-16 ม.ค.60 ที่ผ่านมาเพื่อร่วมประชุม Loa – Thai Business Forum 2017 ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาการค้า การลงทุนต่างๆ ให้เติบโต อย่างยั่งยืน โดยได้มีการจัด Workshop ระหว่างสองฝ่าย ใน 8 สาขาธุรกิจ ได้แก่ โลจิสติกส์ , การค้าชายแดนและสินค้าอุปโภคบริโภค , การเกษตร , พลังงาน , วัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติและเหมืองแร่ , การท่องเที่ยว บริการ และสุขภาพ , สถาบันการเงินและตลาดหลักทรัพย์ , การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ ทาง สปป.ลาว ได้ออกกฎหมายใหม่ในการส่งเสริมการลงทุนใหม่ให้เป็นแบบ One Stop Service โดยได้มุ่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งตรงกับนักลงทุนไทยที่จะเข้าไปลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วย
นอกจากนี้ ภาคเอกชนจะร่วมคณะกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนเมียนมา ในระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.60 เพื่อเจรจาการค้าระหว่างภาครัฐทั้งสองฝ่าย โดยได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้พบปะกับภาครัฐบาลเมียนมา เพื่อหารือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกันในการพัฒนาความร่วมมือด้านการเงินและตลาดทุน
สำหรับการเดินทางเยือนในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค (Regional Connectivity) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนตามแนวชายแดน อาทิ การให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงเส้นทางคมนาคม 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางเอ็งดู – ตะโถ่ง , เส้นทางสิงขร –มะริด และเส้นทางพุน้ำร้อน – ทวายให้อยู่ในสภาพที่ดีเหมาะสมกับการขนส่งระหว่างประเทศได้ ซึ่งเส้นทางดังกล่าวหากมีการปรับปรุงแล้วเสร็จจะช่วยเชื่อมโยงการค้าของไทยออกไปสู่ประเทศต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด
นายอิสระ กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ AEC จึงได้ให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุนกับประเทศสมาชิกในอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญ โดยประเทศไทยมีสัดส่วนการค้า 25% (รวมอาเซียนทั้งหมด) โดยเฉพาะการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการค้าชายแดน และผ่านแดน ในปี 60 มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการขับเคลื่อนการค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการในเชิงรุกเพื่อขยายตลาดการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ โดยเฉพาะการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งมีสัดส่วนถึง ประมาณ 8% ของการค้าไทยกับโลก ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ซึ่งการค้า 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.59) มีมูลค่ารวม 1,091,663 ล้านบาท (เติบโต 1.27%) โดยเป็นมูลค่าการค้าชายแดน มูลค่า 923,498 ล้านบาท (เติบโต 0.44%)