นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมธนารักษ์จะผลักดันโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและผู้สูงอายุ ได้แก่ Senior Complex บนพื้นที่ 300-400 ไร่ย่านบางปู ซึ่งจะได้สรุปแผนหลักในการพัฒนา (Master Plan) ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยมี รพ.รามาธิบดี เป็นผู้รับผิดชอบวางแผนโครงการ เนื่องจากจะเปิดการเปิดสาขา ร.พ.รามาธิบดี แห่งใหม่เป็นโครงการหลัก ขณะที่จะมีอาคารที่พักอาศัยของผู้สูงอายุราว 1,000 ยูนิต เป็นอีกส่วนประกอบของโครงการที่สำคัญ
ทั้งนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการกำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น เช่น ของผู้สูงอายุที่มีสิทธิเข้ามาอยู่ในโครงการ คือ อายุ 55 ปีขึ้นไป และมีรายได้พอสมควร เพราะจะเป็นการขายขาดห้องชุดในอาคารและให้สิทธิอยู่อาศัยจนเสียชีวิต โดยห้ามโอนเปลี่ยนมือสิทธิการถือครอง ซึ่งหลังจากเสียชีวิตแล้วต้องคืนสิทธิให้กับโครงการ พร้อมทั้งกำหนดค่าใช้จ่ายรายเดือนเป็นค่าใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรอาจจะอยู่ที่ 1.5-2 หมื่นบาท/เดือน
หลังจากที่ได้กำหนด Master Plan และได้รับอนุมัติให้ดำเนินงานแล้วจะเปิดประกวดแบบให้เอกชนผู้รับเหมาเข้ามาพัฒนาโครงการในส่วนของที่พักอาศัย และได้รับสิทธิการขาย ซึ่งคาดว่าราคาขายจะต้องสูงกว่าโครงการบ้านประชารัฐ หรือไม่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท/ยูนิตขนาด 30-40 ตารางเมตร โดยจะนำเสนอกระทรวงการคลังก่อนเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ราวเดือน ก.พ.60 เป็นอย่างเร็ว
พร้อมกันนี้ ได้เตรียมปรับปรุงเงื่อนไขโครงการบ้านประชารัฐ เฟส 2 ก่อนเปิดประมูลล็อตใหม่ โดยจะกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นบ้านหลังแรก หรือครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 40,000 บาท/เดือน จากเดิมที่กำหนดว่าต้องเป็นบ้านหลังแรก และมีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท/เดือน ซึ่งขณะนี้มีที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพแล้ว 12 แปลงทั่วประเทศ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก เชียงราย หาดใหญ่ เชียงใหม่ เป็นต้น โดยคาดว่าจะประกาศให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เข้ามาซื้อใบประมูลได้ภายในเดือน ม.ค. หรือไม่เกิน ก.พ.นี้
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวด้วยว่า กรมธนารักษ์ยังอยู่ระหว่างร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทำโครงการบ้านริมคลอง โดยผลักดันให้ผู้ที่รุกล้ำแม่น้ำลำคลองได้ขึ้นมาอยู่บนฝั่ง พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้มีความสวยงาม โดยจะเริ่มจากคลองลาดพร้าว ซ.54 กว่า 1 หมื่นครอบครัว โดยจะจัดสรรพื้นที่ตลอดแนวคลองให้เป็นชุมชนภายใต้สัญญาเช่าพื้นที่ 30 ปี ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะต้องรวมตัวกันเป็นสหกรณ์หรือชุมชนเพื่อบริหารการใช้พื้นที่ในแต่ละแปลงราว 60-100 ครัวเรือน ต้องร่วมกันออกแบบบ้านภายใต้การดูแลของภาครัฐที่มีโครงการสนับสนุนเงินให้กู้เพื่อใช้ในการก่อสร้าง โครงการนี้จะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพื้นที่ราชพัสดุริมคลองในส่วนอื่นๆ ด้วย