นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้า โดยลูกค้าสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ สินเชื่อบ้านกสิกรไทย ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถขอพักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน โดยช่วงเวลาดังกล่าวลูกค้าสามารถชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น และสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทยสามารถขอสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยได้สูงสุดเท่ากับยอดสินเชื่อบ้านที่ได้ผ่อนชำระไปแล้ว โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยส่วนที่ขอใหม่ 0% นาน 6 เดือน
สำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคอื่น ๆ ได้แก่ สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) และสินเชื่อบัตรเครดิตกสิกรไทย (K-Credit Card) จะได้รับการปรับลดดอกเบี้ยของยอดคงค้างเดิมและยอดใช้ใหม่ลง 50% นาน 3 รอบบัญชี รวมทั้งปรับลดวงเงินผ่อนชำระขั้นต่ำ โดยสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย ปรับเป็น 0-5% สินเชื่อบัตรเครดิตปรับเป็น 0-10% นาน 3 รอบบัญชี
สำหรับสินเชื่อบุคคลกสิกรไทย (K-Personal Loan) ปรับยอดผ่อนลดลง 25% จากยอดผ่อนชำระต่อเดือน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือน ส่วนลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของลีสซิ่งกสิกรไทย สามารถขอลดการผ่อนชำระรายเดือนได้สูงสุด 50% ได้นาน 12 เดือน และสามารถขยายเวลาผ่อนชำระเพิ่มได้สูงสุด 6 เดือน แต่เมื่อรวมสัญญาเดิมต้องไม่เกิน 7 ปี
นางนพวรรณ กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยติดตามสถานการณ์เพื่อดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และจะพิจารณาการส่งมอบมาตรการช่วยเหลือให้แก่ลูกค้าจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ลูกค้ารายย่อยผู้ประสบภัยที่เป็นลูกค้าปัจจุบันของธนาคารกสิกรไทย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและแจ้งความประสงค์ขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ K-Contact Center 02-888-8888 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้มาแล้ว อาทิ การลดยอดผ่อนชำระหรือพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน การขยายเทอมตั๋วสัญญาใช้เงินและวงเงินการค้าต่างประเทศ การให้ความช่วยเหลือวงเงินเพื่อซ่อมแซมสถานประกอบการ เครื่องจักร รวมถึงชดเชยสต็อกสินค้าที่เสียหายจากอุทกภัย ธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินกู้โดยพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 6 เดือน และไม่ต้องประเมินราคาหลักประกันใหม่ โดยต้องขอวงเงินภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายแล้ว แต่ธนาคารได้ประเมินว่าปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าจะยังคงอยู่อีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติจะทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินในการใช้หมุนเวียนทางธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าได้ ธนาคารจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมดังกล่าว