นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ หรือการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ในวันที่ 3-28 เม.ย.60 ว่า ธนาคารมีความพร้อมที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากรอบแรก โดยคาดว่ารอบใหม่นี้จะมีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนกับธนาคารออมสินราว 2 ล้านราย
ส่วนการจ่ายเงินสวัสดิการรัฐในรอบแรกที่ผ่านมา พบว่าภายหลังการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มาลงทะเบียนที่มีผู้คุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ สามารถจ่ายเงินได้ทันที 2.1 ล้านราย ส่วนที่เหลืออีก 400,000 รายนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ การดำเนินการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อใช้ในการสร้างโรงงานขยายกำลังการผลิต และปรับเปลี่ยนเครื่องจักร โดยมีวงเงินทั้งสิ้น 3 หมื่นล้านบาทนั้น ธนาคารได้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท ยังเหลือวงเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท
โดยล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ธนาคารขยายเวลาการปล่อยสินเชื่อออกไปจนถึงสิ้นปี 60 ดังนั้นธนาคารฯ มั่นใจว่าในช่วงเวลาที่เหลือจากนี้จนถึงสิ้นปี จะมีผู้ประกอบการ SME เข้ามาขอสินเชื่อมากขึ้นจนเต็มวงเงินทั้งหมดที่ 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มดีขึ้น หลังจากที่เศรษฐกิจไทยในปี 60 มีโอกาสจะขยายตัวได้ 3.5-4% ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้นจากในปี 59 ที่ขยายตัวได้ 3.2%
"มั่นใจว่า หลังจากนี้จะมี SME ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพกำลังการผลิต เข้ามาขอสินเชื่อเพิ่มเติมกับธนาคารมากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ประกอบการมีความตั้งใจที่จะลงทุน หลังจากเศรษฐกิจในปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัวดี" ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าว
อย่างไรก็ดี สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการดังกล่าว ไม่ได้รวมการขอกู้เงินสำหรับกรณีนำไปซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องจักรที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วม เพราะวัตถุประสงค์หลักนั้นต้องการให้นำสินเชื่อไปใช้กับการขยายกำลังการผลิตหรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากกว่า ดังนั้นหากผู้ประกอบการที่ต้องการจะขอสินเชื่อเพื่อนำไปใช้กับการซ่อมแซมเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม ธนาคารออมสินได้จัด 2 โครงการสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย สินเชื่อสำหรับบุคคลธรรมดา วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท/ราย อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก และปีถัดไปดอกเบี้ย 1% ขณะที่สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ จะคิดอัตราดอกเบี้ย MLR -2% โดยที่ลูกค้าเดิมของธนาคารยังสามารถลดหย่อนและขยายเวลาการชำระหนี้ได้ด้วย