น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การจัดงานสัมมนาและนิทรรศการ "Opportunity Thailand" ในวันที่ 15 ก.พ.60 จะมีการจัดกิจกรรรมเชื่อมโยงอุตสาหกรรมครั้งสำคัญของประเทศไทยภายในงานด้วย โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตตามหัวข้อสัมมนา ได้แก่ อุตสาหกรรมอากาศยาน, อุตสาหกรรมออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ โดยกิจกรรมจับคู่ธุรกิจจะครอบคลุมความร่วมมือทางธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งการจับคู่เพื่อรับช่วงการผลิตและซื้อขายชิ้นส่วน การจับคู่เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี และการจับคู่เพื่อร่วมทุนในการผลิตนวัตกรรมแห่งอนาคต
ขณะนี้ มีบริษัทชั้นนำตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจแล้วหลายราย โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน มีกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนของแอร์บัส และโรลส์รอยซ์ และบริษัท ซีเนียร์ แอโร่สเปซ จำกัด กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องการถ่ายทอดผลงานการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องเอ็กซ์เรย์ และข้อเข่าเทียม
ขณะที่การจับคู่ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ต้องการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตหุ่นยนต์ให้กับผู้ประกอบการ บริษัท แม่น้ำ สแตนเลส ไวร์ จำกัด (มหาชน) ต้องการถ่ายทอดเทคโนโลยีของระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ (Warehouse Automation) และบริษัท ไทย เซ็นทรัล เมคคานิคส์ จำกัด ต้องการถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการผลิต
"การจับคู่ธุรกิจของ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ภายในงาน Opportunity Thailand ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการจับคู่ธุรกิจที่บีโอไอจะเน้นมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งบีโอไอจะมุ่งไปสู่การจับคู่ธุรกิจที่ไม่ใช่แค่การซื้อขายชิ้นส่วนในกลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่จะขยายไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อรองรับการลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยต่อไป" รองเลขาธิการบีโอไอ กล่าว