นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนาย Daniel Gomez Gaviria, Head of Competitiveness Research ซึ่งเป็นผู้จัดทำ WEF Global Competitiveness Report ในระหว่างการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี พ.ศ. 2559 ณ เมืองดาวอส
โดยนาย Gaviria ได้แจ้งว่า ทาง WEF จะมีการปรับปรุงวิธีการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันโลกแบบ Facelift โดยจะลดความสำคัญของผลจาก Survey ลง และเพิ่มตัวแปรใหม่เข้าไปในการจัดอันดับกว่า 64 ตัวแปร และคงตัวแปรเดิมเดิมอีก 71 ตัวแปรไว้
ทั้งนี้ คาดว่าในปีหน้าผลการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันของไทยจะมีความแม่นยำเที่ยงตรงขึ้น และนาย Gomez คาดว่าผลการจัดอันดับของไทยน่าจะดีขึ้น ซึ่งตนเองได้หารือกับนาย Gaviria เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยกับ WEF โดยเน้นนำผลการวิเคราะห์ความสามารถทางการแข่งขันใหม่มาใช้ประกอบนโยบายเศรษฐกิจให้มีความทันสมัยมุ่งสู่ประเทศไทยที่มีความสามารถทางการแข่งขันสูงในยุค 4.0 ต่อไป
สำหรับรายละเอียดของการปรับปรุงการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันโลกของ WEF หรือ Global Competitiveness Index นั้น ทาง WEF ได้มีการวางแผนนำเกณฑ์ด้านสภาพแวดล้อมด้านนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) และยกเลิกการให้น้ำหนัก (weight) ตามการจัดกลุ่มของระดับการพัฒนา ทั้งนี้มีการนำข้อมูลตัวแปรใหม่ๆ มาใช้ร่วมประเมินระดับความสามารถทางการแข่งขันร่วมกับผลการจัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นของนักลงทุนที่จะมีการจัดทำแบบสำรวจเป็นรูปแบบ online เท่านั้น
ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีความสามารถในการแข่งขัน (Global Competitiveness Index: GCI) โดย WEF ให้อยู่ในอันดับที่ 34 โดยดัชนีในปี พ.ศ.2559 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดีขึ้นในด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค การศึกษาขั้นสูงและการฝึกอบรม และนวัตกรรม