นายพิสิฐ รังสฤษฏ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ สมอ.จะเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้เอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อยกระดับเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง และให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นผู้ประกอบการกลุ่มใหญ่ของประเทศ แต่พบว่าบางรายยังขาดทักษะและไม่เข้าใจระบบการควบคุมคุณภาพทำให้ไม่สามารถทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตาม มอก.อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ สมอ.มีโครงการพัฒนาเอสเอ็มอีต่อเนื่อง โดยให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ ด้านการควบคุมคุณภาพ และการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าแข่งขันยื่นประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างของภาคราชการได้ เนื่องจากระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกำหนดให้ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งโครงการดังกล่าวมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ สร้างความตระหนักถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน กระตุ้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ที่ไม่มีความพร้อมในการผลิตตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้มีความพร้อมในการยื่นขอการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานกับ สมอ.เพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการค้าเพิ่มพูนรายได้ให้กับผู้ประกอบการในระยะยาว
โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น ผู้ผลิตถุงมือสำหรับใช้ในงานบ้าน มอก. 2476-2552, ผู้ผลิตแผ่นพื้นสำเร็จรูป มอก. 828-2546, ผู้ผลิตท่อ คศล. มอก. 128 2549, ผู้ผลิตเครื่องปลูกอ้อย มอก. 1480-2540, ผู้ผลิตรถแทรกเตอร์เดินตาม มอก.1350-2539, ผู้ผลิตแผ่นยางปูพื้น มอก. 2377-2551, ผู้ผลิตฟองน้ำลาเท็กซ์สำหรับทำหมอน มอก. 2741-2559, ผู้ผลิตสีเคลือบแอลคีด (สีสำหรับทาบ้าน) เฉพาะด้านความปลอดภัย มอก. 2625-2557, ผู้ผลิตสีอะครีลิคเคลือบกระเบื้อง มุงหลังคา มอก. 1097-2556, ผู้ผลิตบริภัณฑ์ส่องสว่างและบริภัณฑ์ที่คล้ายกัน มอก. 1955-2551 และผู้ผลิตสีย้อมไม้ มอก. 1513-2541 และมีผู้ประกอบการหลายรายเมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว สนใจยื่นคำขอและเมื่อได้รับใบอนุญาตจาก สมอ.แล้วยังสามารถเข้าประมูลงานของทางราชการได้โดยมี มอก. เป็นเครื่องมือเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการได้
เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า สมอ.ยังคงมีโครงการในทำนองนี้ต่อไป เพราะการกำหนดมาตรฐานจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรม และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ ในภูมิภาค หรือแม้กระทั่งในสากล ฉะนั้นหากผู้ประกอบการรายใดประสงค์จะเข้าร่วมโครงการเพื่อให้ สมอ.เข้าไปพัฒนาสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลที่ สมอ.ได้