นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ (Doing Business) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ตัวแทนธนาคารโลก (World Bank) ได้ชี้แจงถึงจุดที่ไทยต้องปรับปรุงเพื่อให้การจัดอันดับการทำธุรกิจของไทยดีขึ้น และทันต่อการประเมินการจัดอันดับรอบใหม่ในเดือน พ.ค.60 โดยพบว่ามีเรื่องที่ต้องปรับปรุงหลายอย่าง แบ่งเป็นระยะสั้นที่สามารถทำได้ทันทีก่อน พ.ค. ส่วนระยะยาว เช่น การแก้ไขกฎหมายนั้นก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น
พร้อมระบุว่า ธนาคารโลกยังได้ตั้งข้อสังเกตหลายเรื่อง ตั้งแต่การเริ่มทำธุรกิจ เช่น การจดทะเบียนบริษัท เดิมที่มีข้อบังคับการทำงานว่าต้องส่งข้อมูลให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ได้ออกระเบียบแก้ไขใหม่ว่าไม่ต้องส่งข้อมูลดังกล่าวแล้ว การขอให้ยกเลิกการใช้ตราบริษัทในการทำเอกสาร ขอให้ยกเลิกการชำระเงินทุนจดทะเบียน 25% และค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะไปพิจารณาในส่วนนี้ รวมถึงการส่งเอกสารที่ขอให้เปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเสนอให้แก้ไขการจดทะเบียนที่ดินให้เชื่อมโยงข้อมูลกับกระทรวงพาณิชย์ จากเดิมที่ต้องจดในสำนักงานที่ดินในพื้นที่ และให้สามารถเปิดเผยข้อมูลที่ดินและผู้ถือครองที่ดินได้ ซึ่งเป็นหลักสากลที่กว่า 140 ประเทศบังคับใช้แล้ว รวมถึงให้มีการแจ้งอัตราค่าไฟฟ้าล่วงหน้าอย่างน้อย 1 รอบบิล การบันทึกข้อมูลในระบบของเครดิตบูโร เพิ่มจากเดิมที่เป็นธุรกรรมทางการเงิน เป็นข้อมูลสาธารณูปโภคและการค้าปลีก ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะรับไปพิจารณา
อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกยังตั้งข้อสังเกตเรื่องขอลดเวลาการอนุญาตให้ก่อสร้าง ซึ่งเดิมเมื่อมีการก่อสร้างเสร็จจะตรวจสอบภายใน 30 วัน ขณะที่ต่างประเทศเหลือ 1-2 วัน และแก้ไขกระบวนการตรวจสอบระหว่างก่อสร้างจากเดิม 6 ขั้นตอน ซึ่งปัจจุบันเหลือ 3 ขั้นตอน โดยเสนอให้ใช้ระบบการบริหารความเสี่ยงเข้ามาดำเนินการแทน รวมทั้งข้อจำกัดในด้านการทำการค้าที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรก็จะแล้วเสร็จก่อน พ.ค.นี้ และระบบการชำระภาษี ที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ซึ่งได้ยืนยันว่าอยู่ในแผนที่กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการ
"การมีธนาคารโลกเข้ามาช่วยดูหลังจากที่ไทยปรับปรุงเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดต่างๆ เองมา 1 ปี ทำให้เชื่อว่าในปี 2560 น่าจะทำให้คะแนนจากการประเมินของเราดีขึ้นในการประเมินรอบใหม่ช่วงเดือน พ.ค.นี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 46 ซึ่งหากเราสามารถแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ ได้เร็ว เราก็จะอันดับดีขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยที่ผ่านมาได้ย้ำกับผู้ประกอบการว่า คะแนนที่ดีขึ้นของไทยก็ส่วนหนึ่ง แต่ต้องเห็นผลได้จริงจากสิ่งที่เราได้ทำด้วย โดยผู้ประกอบการต้องทำธุรกิจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น" รมว.คลัง กล่าว
ด้านนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้ฝากการบ้าน 5 เรื่องที่ต้องกลับไปเร่งดำเนินการ ได้แก่ 1. การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างทุกหน่วยงาน 2. การจัดทุกอย่างให้อยู่ในระบบออนไลน์ 3. การแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความชัดเจน 4. ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยใช้วิธีการบริหารความเสี่ยง แทนการกระบวนการทำงานที่ละเอียดมาก และ 5. ควรเปิดให้เอกชน หรือผู้ทรงคุณวุฒิเข้ามาช่วยงานในส่วนที่มีความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ ในเดือน ก.พ.จะต้องมีการนำข้อเสนอแนะของธนาคารโลกมาจัดกลุ่มตามแผนการดำเนินงาน และเตรียมจัดทำแผนปฏิบัติงานเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น