(แก้ไข) ธปท.มองตลาดเงินยังผันผวนจากความไม่แน่นอนนโยบายสหรัฐฯ เตือนเอกชนบริหารความเสี่ยง

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจของไทยหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการนั้น ยังต้องรอพิจารณาในรายละเอียดก่อนสักระยะหนึ่ง เพราะนโยบายสหรัฐต่อประเทศต่างๆ มีความแตกต่างกัน

ส่วนผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนนั้น ยังเป็นปัญหาของทุกฝ่ายที่มีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เพราะความผันผวนยังคงมีอยู่ และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในภาวะที่ไม่มีความแน่นอนในเชิงนโยบายของสหรัฐ ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น

นายวิรไท กล่าวว่า ธปท.อยู่ระหว่างการติดตามนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าคงจะไม่มีผลกระทบต่อมาตรการที่ ธปท.ดำเนินการอยู่มากนัก โดยเฉพาะการผ่อนคลายการไหลออกของเงินทุน เพราะ ธปท.มีวิธีดำเนินมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไปอยู่แล้ว ไม่ได้ใช้มาตรการรุนแรง

ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศนั้น แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรเริ่มมีทิศทางปรับตัวกดดันดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ แต่ก็เป็นสภาวะของตลาดการเงินทั้งโลก เมื่ออัตราดอกเบี้ยของประเทศอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่ปรับตัวชันมากขึ้น จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรทั่วโลกก็มีแนวโน้มที่จะชันมากขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นผลมาจากการที่สหรัฐมีความต้องการกู้เงินเพิ่มมากขึ้น จากที่เห็นนโยบายการคลังที่มีแนวโน้มที่จะขาดดุลมากขึ้น

สำหรับแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อและเงินฝากของไทยนั้น นายวิรไท มองว่า ประเทศไทยยังมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ค่อนข้างมาก เพราะฉะนั้น ผลกระทบจากสหรัฐคงจะไม่เป็นการกระทบด้วยการกระตุกแรงๆ แต่ถ้าจะมีก็น่าจะเป็นในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป ตามแนวโน้มทิศทางที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งหากดูอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ณ วันนี้ ก็แค่อาจจะกลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน คือไม่ได้สูงขึ้นแบบกระโดด เพราะว่าปีที่แล้วอัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู๋ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ ธปท.มีการประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดเวลาเพื่อดำเนินนโยบายทางการเงินให้เหมาะสม อย่างเช่นนโยบายเงินทุนเคลื่อนย้าย ไม่ได้ทำเพื่อให้มีผลแค่ 2-3 เดือน แต่เป็นการวางโครงสร้างสำหรับระยะยาว โดยนโยบายเหล่านี้ไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปตามรอบของระบบเศรษฐกิจ หรือว่าสถานการณ์ของตลาดโลกในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น

"เวลา ธปท.ทำนโยบายเราต้องแน่ใจว่าเศรษฐกิจมีภูมิคุ้มกัน มีกันชน มีความทนทาน ไม่ว่าสภาวะของตลาดเงินตลาดทุนมันจะมีความผันผวนอย่างไรก็ตาม"นายวิรไท กล่าว