ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า จากมูลค่าส่งออกสินค้าไทยที่ขยายตัวสูงในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2559 ซึ่งส่งสัญญาณให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศ ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการยังทรงตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัจจัยที่หนุนให้การส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปี 2560 ขยายตัวเป็นบวกในอัตราที่เร่งขึ้นจากปีก่อน โดยศูนย์วิจัยฯ ยังคงประมาณการมูลค่าส่งออกในปีนี้ที่ 0.8%
"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการมูลค่าส่งออกในปีนี้ที่ 0.8% หรืออยู่ในช่วงกรอบประมาณการที่ -0.5 ถึง 2.5% เพื่อรอประเมินรายละเอียดของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ" เอกสารเผยแพร่ระบุ
โดยในปี 2560 สินค้าส่งออกหลายรายการสำคัญยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในหมวดอาหาร อาทิ สินค้าประมง ผัก-ผลไม้สด/แช่แข็ง/แปรรูป และไก่สด/แช่แข็ง/แปรรูป ที่คาดว่าจะขยายตัวดีตามปริมาณผลผลิตทางการเกษตรในประเทศที่เพิ่มขึ้นหลังผ่านพ้นภาวะภัยแล้งในปี 2559 สอดรับกับความต้องการของต่างประเทศที่น่าจะสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
รวมไปถึงการส่งออกสินค้าสำคัญอย่างรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่น่าจะยังโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากความต้องการในตลาดโอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และเอเชีย นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องซึ่งมีสัดส่วนราว 12% ต่อการส่งออกทั้งหมดในปี 2559 ก็คาดว่าจะพลิกกลับมาเติบโตเป็นบวกในปี 2560 โดยมีราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นเป็นแรงหนุนสำคัญ
สำหรับมูลค่าส่งออกสินค้าในเดือนธ.ค.59 ขยายตัวสูงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หนุนยอดส่งออกทั้งปี 2559 พลิกกลับมาโตในแดนบวกได้ในรอบ 4 ปีที่ 0.45% โดยการส่งออกสินค้าที่เติบโตสูงในเดือนธ.ค.59 นี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ต่ำ ประกอบกับการขยายตัวสูงและต่อเนื่องของสินค้าส่งออกสำคัญหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกทองคำไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะการส่งออกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนตามความต้องการที่อยู่ในระดับสูง อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนแม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวก็ตาม
รวมถึงการส่งออกสินค้าในกลุ่มปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และน้ำมันสำเร็จรูปที่ขยายตัวบนเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ 17.6%หลังได้แรงส่งจากการขยับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกหลังประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน (OPEC และ Non-OPEC) บรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าไป 5 ตลาดหลัก เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป(15) และอาเซียน(9) ยังขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยการส่งออกสินค้าไทยไปยังจีนและอาเซียน(9) เติบโตในอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่อีก 3 ตลาดหลักที่เหลือ แม้ยอดการส่งออกสินค้าไทยในเดือนธ.ค.59 จะขยายตัวในแดนบวก แต่ก็เป็นในอัตราที่แผ่วลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าไปจีนขยายตัวบนเลขสองหลักต่อเนื่องจากเดือนก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากทางด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแม้ว่าการส่งออกสินค้าของจีนยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ก็ตาม