นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่า ตลาดเงินและตลาดทุนไทยในปี 60 จะเผชิญความผันผวนและอาจรุนแรงบางช่วงจากเงินทุนเคลื่อนย้าย แต่ยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปีนี้จะขยายตัวได้ราว 3.2% หลังภาคส่งออกกลับมาขยายตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก และการลงทุนภาครัฐเป็นแรงหนุน ขณะที่คาดว่าเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 1.5% ทยอยปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน-สินค้าโภคภัณฑ์
พร้อมมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะกระจายตัวได้ดีขึ้นใน 3 ด้าน คือ 1.ด้านการบริหารจัดการน้ำที่สามารถรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติได้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับมาตรการช่วยเหลือภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ก็จะมีส่วนช่วยให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวดีขึ้นส่งผลดีต่อรายได้ของภาคเกษตร
2.งบประมาณของภาครัฐที่มีเป้าหมายกระจายลงไปสู่ระดับจังหวัดมากขึ้น ทั้งงบกลางปี และงบประมาณรายจ่ายปี 61 ซึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือการให้งบกลุ่มจังหวัด 1 แสนล้านบาทในโครงการประชารัฐ และ 3.ภาคการส่งออก ที่เริ่มมีการฟื้นตัวได้ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีการฟื้นตัว ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 59
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากต่างประเทศทั้งในเรื่องการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความเสี่ยงจากการเลือกตั้งหลายประเทศในสหภาพยุโรป การเจรจา Brexit ตลอดจนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของจีน และผลกระทบที่จีนจะได้รับจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ยังต้องติดตาม คือ ความสำเร็จของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน ผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย และความชัดเจนของการเลือกตั้งครั้งใหม่
"ธปท.จะมีการทบทวน GDP ในทุกไตรมาส และจะติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง" ผู้ว่า ธปท.กล่าว